สังคม
ผู้การนิติเวชฯ จ่อเรียกแพทย์ผ่าศพ 'แตงโม' ชี้แจงปมบาดแผลทั้งหมด
10 มี.ค. 2565
261 views
ความคืบหน้าการเสียชีวิต ของแตงโม นิดา ล่าสุด มีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช วิเคราะห์ร่องรอยบาดแผล จากคำบอกเล่าของไทด์ เอกพันธ์ หนึ่งในทีมกู้ภัยที่พบร่องรอยผิดปกติบริเวณศรีษะของแตงโม รวมทั้งการตั้งข้อสงสัยของทนายความกฤษณะ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าสามารถตรวจสอบและพิสูจน์ได้ว่า เป็นรอยที่เกิดจากการโดนทำร้ายหรือไม่
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวช่อง 3 โดยอ้างอิงจากคำบอกเล่าของหนึ่งในทีมกู้ภัย ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ที่บอกเล่าถึงลักษณะใบหน้าของศพ ที่มีรอยฟกช้ำ ฟันหัก รวมถึงบาดแผลที่ขา
นายแพทย์วีระศักดิ์ แยกเป็น 3 ส่วน คือ กรณีใบหน้าที่มีการระบุว่า บวม ช้ำ จนทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากการถูกทำร้ายหรือไม่ โดยคุณหมอให้ความเห็นว่า หากดูด้วยตาเปล่าอาจจะแยกไม่ออก แต่กระบวนการนิติเวชศาสตร์ สามารถตรวจสอบได้ ว่าลักษณะที่เห็นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพหลังจากลอยขึ้นมา หรือเกิดจากแสงแดด หรือถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งต้องใช้วิธีเปิดดูใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งจะบอกได้ว่าบริเวณใบหน้าเป็นรอยฟกช้ำ หรือบวมอืด และรอยฟกช้ำที่ปรากฎ เกิดขึ้นก่อนหรือหลังเสียชีวิต
ส่วนฟัน ที่ระบุว่า ฟันหัก ก็จะมีการตรวจสอบประวัติการทำฟัน มีการใช้ฟันปลอมหรือไม่ และลักษณะการหัก ก็สามารถตรวจสอบได้ว่าเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการเสียชีวิต หากเกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต ก็ควรจะสอดคล้องกับบาดแผลที่บริเวณริมฝีปาก
ส่วนสุดท้ายคือบาดแผลที่ขา ที่ก่อนหน้านี้มีการวิเคราะห์กันไปในหลายประเด็น ซึ่งในทางนิติเวชศาสตร์ จะวิเคราะห์จากร่องรอยบาดแผลก่อน ว่าลักษณะขอบแผลเข้าได้กับวัตถุใดบ้าง //และจากข้อมูลที่ระบุว่าบาดแผลลึกถึงกระดูก ก็สามารถใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสอบเศษโลหะที่ติดกับกระดูกได้
ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า บาดแผล อาจเกิดจากของมีคมอย่างมีด หรือขวดไวน์ซึ่งเป็นปากฉลามนั้น ในความเห็นส่วนตัวมองว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะต้องมีร่องรอยเลือดปรากฎบนเรือ แต่ในกรณีนี้เป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นในน้ำ ก็อาจมีความเป็นไปได้หมด ไม่ว่าจะเป็นใบพัดเรือ หรือ ฟินเรือ
ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ได้โพสใน Facebook ส่วนตัว วิเคราะห์บาดแผลที่ขา พร้อมกับนำภาพของบาดแผลของสัตว์น้ำที่ถูกใบพัดเรือ และภาพของใบพัดสามแฉก
พร้อมข้อความระบุว่า บาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือขณะกำลังหมุน จะมีลักษณะฉีกขาดหลายแผลลึก และขนานกัน ใบพัดสามแฉกซึ่งหมุน 3,200 รอบ ต่อนาที กระทบร่างกาย 9,600 ครั้งต่อนาที หรือ 160 ครั้งต่อวินาที โดยงานวิจัยจำนวนมาก บรรยายถึงบาดแผลจากใบพัดเรือในทำนองเดียวกัน น้อยมากที่จะเจอแผลเดียวไม่ลึก
พร้อมอ้างอิงเอกสารว่า เห็นมีอยู่รายนึง ที่วงกลมสีเหลือง เป็นแผลเดียวที่เท้า เอ็นไม่ขาด แต่รายนั้นเกิดจากการลื่นแล้วไปสะดุดใบพัดเรือ ซึ่งจอดอยู่บนบก
นายแพทย์ธวัชชัย ยังระบุใต้คอมเม้นท์เพิ่มเติมว่า ต้องทดสอบด้วยการยกเรือขึ้น แทนเดินเครื่อง แล้วใช้ขาหมูลองในทิศทางต่างๆ และดูว่าสามารถทำให้เกิดบาดแผลอย่างนั้นได้หรือไม่
ส่วนความเคลื่อนไหวทางฝั่งของ นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของแม่แตงโม วันนี้เดินทางมาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ขอพบพนักงานสอบสวน เพื่อถามคำถาม 4 ข้อ คือ1. ผลตรวจเลือดของแตงโมตรวจพบอะไรบ้าง 2.บาดแผลของแตงโม ได้มีการตรวจส่วนใดเป็นพิเศษแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะที่ปรากฎภาพว่ามีแผลที่บริเวณศีรษะ รอยฟกช้ำที่ตา รวมถึงการวิเคราะห์สาเหตุของบาดแผลว่าใช้เครื่องมือ หรือวิธีการใดในการวิเคราะห์ 3.ผลเลือดของบุคคลบนเรือเป็นอย่างไร มีการตรวจตั้งแต่เมื่อไหร่ ตรวจที่ไหน และ4.มีการตรวจรอยคราบเลือดหรือไม่
นอกจากนี้ ทนาย กฤษณะ ยังบอกว่า 4 ประเด็นดังกล่าว มาจากการปรึกษาแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ นอกจากนี้ยังพูดถึงคลิปล่าสุดที่มีการแชร์กันในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายตีศีรษะกันบนเรือ นายกฤษณะ บอกว่า อยากให้ตำรวจนำไปตรวจสอบด้วย แม้จะมีคนบอกว่าเป็นคลิปเก่าที่เกิดขึ้นหลังแตงโมตกน้ำไปแล้วก็ตาม และหากผลชันสูตรมีบาดแผลถูกตีที่ศีรษะจริง อาจจะเชื่อมโยงกับคลิปนี้ก็ได้ นอกจากนี้ยังอยากให้ตำรวจ เรียกไทด์ เอกพันธ์ ไปเป็นพยานให้ปากคำด้วย เพราะไทด์ เป็นคนที่ได้เห็นภาพบาดแผลของแตงโมด้วยตนเอง
ส่วนพิธีศพของแตงโม ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทีมข่าวไปสำรวจที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ย่านสะพานสูง พบว่าตลอดทั้งวันได้มีการจัดเตรียมสถานที่ โดยทางเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต ได้เน้นย้ำให้ดูแลเรื่องการเว้นระยะห่าง โดยพรุ่งนี้จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์อีกครั้ง พร้อมย้ำว่าผู้ที่มาร่วมงานจะต้องตรวจ ATK และสวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น หากตรวจATK พบมีผลเป็นบวก จะแจ้งผลตรวจเป็นการส่วนตัว และไม่อนุญาตให้เข้าร่วมงานเด็ดขาด
สำหรับกำหนดการผู้ที่จะมาร่วมงาน ต้องลงทะเบียนทางออนไลน์เท่านั้น โดยพิธีการจะมี 3 วัน ระหว่างวันที่ 11-13 มีนาคม ตั้งแต่เวลา 18.30 -20.30 น.