คกก.โรคติดต่อแห่งชาติ ไฟเขียวเปลี่ยน "โควิด" เป็นโรคประจำถิ่น ตั้งเป้า 1 ก.ค.นี้

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 กลับมาที่จำนวน 2 หมื่นคนอีกครั้ง  ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นแล้ว โดยกำหนดเป้าหมายในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ซึ่ง 16 มีนาคมนี้ก็จะเริ่มการถอดออกจากสิทธิภาะฉุกเฉินวิกฤตรักษาทุกที่ หรือ UCEP แล้ว 

วันนี้ (9 มี.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ อยู่ที่ 22,073 คน จนถึงขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อรวมสะสม 3,088,873 คน หายป่วยเพิ่ม 24,747 คน รักษาตัวอยู่ 221,585 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 1,200 คน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 404 คน เสียชีวิตเพิ่มอีก 69 คน

ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบมาตรการรองรับการเปลี่ยนผ่านการแพร่ระบาดโรค โควิด-19 สู่การเป็นโรคประจำถิ่นภายในวันที่ 1 กรกฎาคม เช่นเดียวกับในหลายประเทศที่เตรียมการเปลี่ยนผ่านโควิด-19 ไปสู่โรคประจำถิ่น เช่น ประเทศในทวีปยุโรป

ซึ่งขณะนี้ภาพรวมของประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วกว่า 125 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มแรกร้อยละ 78 เข็มที่สองร้อยละ 72 และเข็มที่สามกว่า ร้อยละ30

ขณะที่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ครอบคลุมเข็มแรก ร้อยละ83 เข็มที่สองร้อยละ 79 และเข็มที่สามกว่า ร้อยละ 31 ยังเหลือกลุ่มผู้สูงอายุอีกกว่า 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงในการติดเชื้อและจะมีการป่วยหนัก

นายอนุทิน ระบุว่า สำหรับการเปลี่ยนผ่านโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นทางกระทรวงมีแผนรองรับอยู่แล้ว โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ทุกอย่างต้องพร้อม ทั้งเตียง ยา เวชภัณฑ์

ขณะที่อัตราส่วนการเสียชีวิตต้องอยู่ในระดับที่รับได้เหมาะสมตามข้อมูล คือ ร้อยละ 0.1 หรือ 1คนใน1 พันคน รวมไปถึงมาตรการทางสังคมอื่นๆที่จะต้องมีการปรับให้สอดลคล้องเช่นการยกเลิก ประกาศ พรก.ฉุกเฉินเพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด -19

นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธาณรสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีแนวทางแบ่งเป็นช่วงคือนในช่วงเดือนมีนาคม -เมษายน จะต้องคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้คงที่หรือลดลง จากนั้นแผนในเดือนพฤษภาคม คือทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงจากระนาบ จนอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และในเดือนมิถุนายนต้องพิจารณาข้อมูล เพื่อการปรับลดระดับ จนพร้อมสำหรับการประกาศในเดือนกรกฎาคม