สังคม

WHO เผยข่าวดี "โอมิครอน" รุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น กระทบระบบทางเดินหายใจส่วนบนเท่านั้น

โดย pattraporn_a

4 ม.ค. 2565

516 views

เมื่อวานนี้ สหรัฐอเมริกาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพียงวันเดียว ทะลุ 1 ล้านคน สูงที่สุดนับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดมา ขณะที่สเปน พบผู้ติดเชื้อฟลูโรนา (Flurona) หรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผสมกับเชื้อไข้หวัดใหญ่รายแรกของประเทศ และรายที่ 2 ของโลก


โดยรายงานระบุว่า สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว และจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังค้างจากช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ จึงทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 2 เท่า จนทะลุ 1 ล้านคน ทำลายสถิติเดิมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่มีผู้ติดเชื้อประมาณ 5.9 แสนคน


อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า ชาวอเมริกาจำนวนมากพึ่งพาการตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจโควิดที่บ้าน จึงทำให้มีผลการตรวจที่ยังไม่ได้รายงานต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าตัวเลข 1 ล้านคนนี้ อาจเป็นการประเมินที่ต่ำกว่าความเป็นจริง


ส่วนที่ประเทศสเปน สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สาธารณสุขสเปนได้ออกมายืนยันเมื่อวานนี้ว่า พบผู้ติดเชื้อฟลูโรนา (flurona) ที่โรงพยาบาลในแคว้นกาตาลุญญ่า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสทั้งสองตัวนี้พร้อมกัน เป็นเรื่องที่ยาก และไม่ค่อยจะเกิดขึ้น


เจ้าหน้าที่สเปน ระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ติดเชื้อฟลูโรนารายแรกของประเทศ เบื้องต้นมีอาการไม่รุนแรง และสเปนกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่า มีผู้ป่วยรายอื่นอีกหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะพบผู้ติดเชื้อทั้งสองชนิดรวมกัน


ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อฟลูโรนาที่สเปนถือเป็นรายที่ 2 ของโลก โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อฟลูโรนารายแรกของโลกที่อิสราเอล โดยเป็นหญิงตั้งครรภ์ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน พบว่า ติดเชื้อทั้งสองชนิดพร้อมกัน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งอาการของผู้ป่วยก็ไม่รุนแรง มีอาการเพียงเล็กน้อย และอิสราเอลกำลังศึกษาการรวมตัวของไวรัส 2 ชนิดนี้ ว่า จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงขึ้นหรือไม่


และล่าสุดในวันนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาเปิดเผยข่าวดีว่า WHO พบหลักฐานที่เพิ่มมากขึ้น ที่แสดงให้เห็นว่าเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอน ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจส่วนบนเท่านั้น ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการป่วยที่รุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี WHO ย้ำว่าการแพร่ระบาดที่รวดเร็วของโอมิครอน จะทำให้เชื้อตัวนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลัก ที่แพร่ระบาดในหลายพื้นที่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และอาจกระทบต่อประเทศที่มีประชากรจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน


คุณอาจสนใจ

Related News