รถเข้ากรุงยังหนาแน่น ยอดอุบัติเหตุ 4 วันหยุดปีใหม่ คร่าแล้ว 226 ชีวิต

วันนี้ (2 ม.ค.) ประชาชนเริ่มเดินทางกลับจากการเดินทางกลับภูมิลำเนา และไม่ท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะเส้นทางภาคเหนือ และอีสาน ระเริ่มหนาแน่น ส่วนสถิติอุบัติเหตุ 4 วัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 226 คน

เส้นทางจากภาคอีสาน ในช่วงค่ำ สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ มีปริมาณรถยนต์เริ่มเพิ่มขึ้นมากจนหนาแน่น รถเต็มทุกช่องทาง ตั้งแต่ทางลงมอเตอร์เวย์ ไปจนถึงมวกเหล็ก เจ้าหน้าที่ทางหลวงเปิดช่องทางพิเศษ ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 67 ไปจนถึงจุดออกกิโลเมตรที่ 47 รวมระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยเฉพาะตั้งแต่ทางต่างระดับเขาใหญ่ไปจนถึง บริเวณด่านกักสัตว์บันไดม้า เริ่มมีรถสะสมจำนวนมาก รถวิ่งช้าสลับหยุดนิ่ง ช่องทางพิเศษก็สลับหยุดนิ่งเช่นกัน เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งบริเวณนี้เป็นทางขึ้นเนินเขาสูง ระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งในช่วงดึกๆของวันนี้การจราจรบนถนนมิตรภาพจะมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นมากยิ่งขึ้น

ขณะที่สายเหนือ บนถนนสายเอเชีย ช่วงเย็นต่อเนื่องจนถึงค่ำ ในพื้นที่อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี ขาเข้ากรุงเทพฯ ได้มีประชาชนขับรถทยอยเดินทางกลับบ้างแล้ว ทำให้การจราจรติดขัดเป็นบางช่วง สามารถเคลื่อนตัวได้เพียง 30-40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงที่เป็นที่ตั้งของปั้มน้ำมัน เนื่องจากได้มีประชาชนเข้าออกไปใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก ทำให้มีประชาชนบางส่วนเลือกที่จะใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 309 สิงห์บุรี-อ่างทอง เพื่อขับเข้ากรุงเทพ โดยเส้นทางนี้สามารถขับรถทำความเร็วได้กว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้เพราะถนนเป็น 4 ช่องทาง

ขณะที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2565 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม เกิดอุบัติเหตุ 574 ครั้ง  ผู้เสียชีวิต 73 คน ผู้บาดเจ็บ 574 คน อุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 4 วันของการรณรงค์ วันที่ 29 ธันวาคม-1 มกราคม เกิดอุบัติเหตุรวม 1,906 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 226 คน ผู้บาดเจ็บรวม 1,894 คน

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ 74 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 14 คน จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 70 คน และจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มี 35 จังหวัด

ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เคยตั้งเป้าไว้ว่า ปีนี้ ผู้เสียชีวิตต้องไม่เกิน 388 คน 4 วันผ่านมา 226 คน ยังเหลืออีก 3 วัน ต้องดูกันว่า เป้าที่วางไว้จะสามารถทำได้หรือไม่