ชายแดนแม่สอด ไร้การปะทะครบ 24 ชม. ผู้ลี้ภัยเริ่มสมัครใจกลับบ้าน คาดการณ์สงบก่อนปีใหม่

สถานการณ์สู้รบในเมียนมาเงียบสงบในวันนี้ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 คาดว่าเป็นผลมาจากการเจรจาหยุดยิงของ 2 ฝ่าย ที่อาจส่งผลให้สถานการณ์ยุติภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้ประชาชนทุกฝ่ายได้มีความสุขในช่วงปีใหม่ ส่วนผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมายังอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวทั้ง 2 แห่งของไทย 4,730 คน

ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก รายงานสถานการณ์วันที่ 28 ธันวาคม ไม่ปรากฏการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมา กับ กองกำลังทหารกะเหรี่ยง ทำให้พื้นที่ชายแดนไทยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังมีทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง คอยดูแลความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนไทย และผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ซึ่งในอำเภอแม่สอด มีการรวมไว้จุดเดียวที่คอกวัวเมยโค้ง บ้านมหาวัน ตำบลมหาวัน

ซึ่งมีจำนวนผู้หนีภับรวมม 4,730 คน และพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว วัดหมื่นฤาชัย ตำบลพบพระ 94 คน ซึ่งทางการไทย ยืนยันจะให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรม จนกว่า สถานการณ์จะคลี่คลาย

ซึ่งใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังไม่มีการปะทะ คาดว่าจะมีผลมาจากการเจรจาหยุดยิงของกองกำลัง 2 ฝ่าย โดยพ.อ. ณรงค์ชัย เจริญชัย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 เปิดเผยว่า เป็นสัญญานที่ดี ทำให้ประชาชนผู้หนีภัย มีความมั่นใจและสมัครใจเดินทางกลับไปมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตและดูแลปศุสัตว์ ไทยจึงอยากเห็นสถานการณ์ยุติภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกคน

ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบภายในเมียนมา ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย และกระสุนไม่ทราบชนิดไม่ทราบฝ่ายได้ตกมายังฝั่งไทยหลายครั้ง กองกำลังนเรศวร และกรมทหารราบที่ 14 โโยคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา หรือ TBC ได้แจ้งเตือนประท้วงทั้งลายลักษณ์อักษรและด้วยวาจา รวมแล้ว 7 ครั้ง ได้รับการตอบรับอย่างดีจากเมียนมาทุกครั้ง และขอให้ทุกฝ่ายตั้งเป้าหมายร่วมกันที่จะปกป้องชีวิตและความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกคน รวมถึงประชาชนไทยตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่ไทยทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้เกิดความสงบสุขโดยเร็ว

สำหรับการดำเนินการระหว่างสถานการณ์จะยุติในส่วนการดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา ที่ยังเหลือในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทางเจ้าหน้าที่ไทยยังให้การดูแลตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าจะมั่นใจและเดินทางกลับ ซึ่งสิ่งที่ยังไม่ให้องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปเพราะต้องทำตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งในส่วนผู้หนีภัยมั่นใจได้ว่าไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาพื้นที่ชั้่นในได้ ในขณะเดียวกันต้องเฝ้าระวังกลุ่มแรงงานผิดกฏหมายที่อาศัยช่วงสถานการณ์ยังหลบหนีเข้ามา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องเฝ้าระวังติดตามและจับกุมอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการเจรจาหยุดยิงเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า กองกำลัง 2 ฝ่ายเห็นตรงกันที่จะให้ความปลอดภัยกับประชาชน โดยให้กลับมายึดตามข้อตกลงหยุดยิงทั่วประเทศหรือ NCA ระหว่างทหารเมียนมากับสหภาพกะเหรี่ยง KNU ให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาอยุ่ในที่ตั้ง โดยเงื่อนไขสำคัญทางทหารเมียนมา ไม่ให้ใช้เป็นฐานฝึกกำลังหรือเป็นพื้นที่ให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาหลบหนี ซึ่งเป็นโจทย์ทีท้าทายสำหรับฝ่าย KNU ที่ประกาศยืนข้างประชาธิปไตย จึงต้องรอฟังผลจากการเจรจาจะนำไปสู่แนวทางปฏิบัติในช่วงก่อนปีใหม่นี้ได้หรือไม่



สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอแม่สอด อำเภอพบพระ จังหวัดตากวันนี้จึงมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังปฏิบัติงานตามแผนดูแลความไม่สงบเรียบร้อย รวมถึงการช่วยเหลือด้านมุนษยธรรมที่ไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รวมถึงการไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่ประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง และยังต้องติดตามสถานการณ์จนกว่าจะยุติไปในทางที่ดีขึ้น