นายกฯ ลงใต้เยือน อ.ยะหริ่ง ปัตตานี / ศอ.บต.เล็งผลักดันสู่ 'เมืองปูทะเลโลก' ส่งเสริมท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีการเปิดเมืองปูทะเลที่ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี พร้อมพัฒนาเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ต้องให้มีการศึกษา SEA ให้ครบถ้วนเสียก่อน

การลงพื้นที่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกจับตาว่าจะมีการชุมนุมจากกรณีเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นเรียกร้องให้ยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ แต่หลังจากเมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรี มีมติชะลอโครงการโดยให้ สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทำการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์หรือ SEA ทำให้การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

แม้จะมีการวางมาตรการคุมเข้ม ปิดถนนสิโรรส หน้าศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ จุดแรกที่นายกรัฐมนตรีไปรับฟังความคืบหน้าในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดย พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอบต. รายงานการขับเคลื่อนโครงการมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ที่มุ่งแก้ปัญหาความยากจน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ เน้นย้ำถึงมติคณะรัฐมนตรี ที่ให้ทำการศึกษา SEA รับฟังความเห็นประชาชนให้รอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง จึงขอให้เริ่มกันใหม่

นายกรัฐมนตรี ยังได้ลงพื้นที่ บ้านโต๊ะโสม ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ที่มีการพัฒนาให้เป็น เมืองแห่งปูทะเลโลก ที่ให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้จากการเลี้ยงปูทะเล เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดชายทะเลอ่าวไทย และมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์

นอกจากส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ศอบต.กำลังส่งเสริมให้มีการเพาะพันธุ์ปูทะเล ซึ่งสามารถสร้างรายได้ จากปูตัวเล็กกิโลกรัมละ 150 บาท เป็นปูเนื้อ และปูตัวใหญ่ ราคาสูงกิโลกรัมละ 600 บาท ทำให้เกษตรกรมีความหวัง ที่เชื่อว่า ทะเลอ่าวไทย ตั้งแต่จังหวัดชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส สามารถพัฒนาให้เป็นเมืองปูทะเลโลกได้อย่างแท้จริง จึงอยากเห็นรัฐบาลพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ จะช่วยสร้างรายได้ที่แท้จริง ในระหว่างการเยี่ยมชมการเพาะพันธุ์ปูทะเล นายกรัฐมนตรียังได้โชว์การจับปู ที่จับเก่งโดยที่ปูไม่หนีบมือ

นายกรัฐมนตรี ชื่นชมการดำเนินงานของสมาชิกกลุ่มเลี้ยงและหวังให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น “เมืองแห่งปูทะเลโลก” เชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่ด้านการท่องเที่ยวที่สวยงาม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวให้มากขึ้น สร้างอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน พร้อมขอให้น้อมนำแนวทางตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ขอให้ทุกคนร่วมกันทำเพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ซึ่งถือเป็นพลัง soft power ของไทย และอย่าให้ใครมาทำให้เกิดความแตกแยก และสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประเทศให้ขับเคลื่อนต่อไป

สำหรับกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ได้เดินทางจากหน้าทำเนียบรัฐบาล ถึงอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาแล้ว ขณะที่บริษัทเอกชน ได้ยุติการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ehia ทั้ง 4 โครงการแล้ว ตามมติ ครม.ที่ให้ยุติการดำเนินโครงการจนกว่าจะศึกษา SEA แล้วเสร็จ