มูลนิธิปวีณาฯ ชี้ปัญหาความรุนแรงในเด็ก และสตรี ต้นตอล้วนมาจากยาเสพติด

มูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เชื่อปัญหาความรุนแรงในเด็ก และสตรี ต้นตอมาจากยาเสพติด ทั้งจากการเสพและยกระดับขึ้นเป็นผู้ขาย

การล่วงละเมิด และการถูกทารุณกรรม ยังคงเป็นปัญหาที่มาอันดับต้นๆในสังคมไทย หลังจากมูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรีได้เก็บรวบรวมสถิติมาเป็นเวลา 1 ปี โดยพบว่าสาเหตุใหญ่ของผู้กระทำผิด มากจากการติดสารเสพติด จึงต้องการเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยพบว่าผู้เสพในชุมชนต่างๆก็คือผู้ขายด้วย และมาตรการบำบัดฟื้นฟูต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2ปี

ทุกวันที่มูลนิธิปวีณา เพื่อเด็กและสตรี จะมีผู้มาร้องเรียนคดีล่วงละเมิด ถูกทำร้ายจากบุคคลใกล้ชิด หรือคนในชุมชน

โดยล่าสุด เป็นมารดาของเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชั้น ป.2 ที่ รร.แห่งหนึ่งในจ.สุพรรณบุรี ขณะที่เด็กไปเข้าห้องน้ำ ในโรงเรียน พบชายวัย 37 ปี เข้ามาทำอนาจาร แต่เพื่อนเห็นจึงไปบอกครู ให้เข้ามาพังประตูห้องน้ำ ช่วยเหลือได้ทัน

จากการรวมรวมสถิติ ของมูลนิธิ พบว่าในรอบปี มีผู้เขาร้องทุกข์ทั้งหมด กว่า 11,000 ราย มากกว่าปีที่แล้วถึงกว่า 1พันราย ปัญหาครอบครัว และการใช้ความรุนแรง ถึง 1500 ราย ทารุณกรรม 994 ราย และคดีล่วงละเมิด อนาจาร ถึง 741 ราย

บุคคลที่กระทำผิดยังเป็นบุคคลใกล้ตัว ซึ่งมีทั้งแฟนเพื่อน ญาติ พ่อเลี้ยงคนรู้จัก และเป็นที่น่าตกใจว่า อายุของเหยื่อ ลดต่ำลง มีอายุไม่ถึง 1 ขวบ ถูกล่วงละเมิด และอายุมากที่สุด 85 ปี ก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน



นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิ ปวีณา กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลของเหยื่อ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ ทั้งถูกทารุณกรรม และถูกล่วงละเมิด สาเหตุมาจากติดสารเสพติดแทบทั้งสิ้น โดยผู้เสพ ก็จะถูกชักจูงให้ขายเป็นแบบ direct sell โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของเชื้อโควิด จะพบสถิติการทำร้ายกันภายในครอบครัวสูงขึ้น และการล่วงละเมิดก็สูงเช่นกัน

ซึ่งเมื่อร่วมสอบประวัติของผู้กระทำผิดต่างมีประวัติใช้ยาเสพติด ซึ่งกำลังระบาดไปทุกชุมชน จากการที่ได้ลงพื้นที่ พบว่า การทำผิดซ้ำซากของผุ้เสพยา มีแนวโน้มสูง การแก้ไขจึงต้องการเสนอให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูอย่างเข้มข้นอย่างน้อย 2ปี เพราะเท่าที่เห็นนำตัวไปบำบัด 45 วันไม่ได้ผล

หากผู้เสพ คือผู้ขาย แบบ direct sell หายไป จะสามารถตัดวงจรการขายยาในชุมชนได้ และปัญหาการถุกทำร้าย ของเด็ก ผู้สูงอายุ ก็จะหมดไปด้วยเช่นกัน