สังคม
นักวิจัยเปิดคลังถั่งเช่า ยันเป็นสมุนไพรให้ประโยชน์ แนะพิจารณาส่วนประกอบก่อนบริโภค
6 ก.พ. 2564
60 views
ปัจจุบันมีการตั้งคำถามถึงกระบวนการผลิตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่งเช่าเป็นจำนวนมาก หลังถั่งเช่ากลายมาเป็นสินค้าที่มีมูลค่าทางท้องตลาดสูง แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตถึงผลข้างเคียงที่จะตามมาหากบริโภคติดต่อกันนาน ล่าสุดมีเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่งเช่าเจ้าหนึ่งยินดีเปิดเผยขั้นตอนการผลิตถั่งเช่าเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งได้ยืนยันว่าถั่งเช่าเป็นสมุนไพรที่ให้ประโยชน์ แต่ต้องพิจารณาส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนบริโภค
ห้องวิจัยต้นแบบการเพาะพันธ์ถั่งเช่าทิเบต พัฒนาโดยศาสตราจารย์ ดร.มณจันทร์ เมฆธน ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อรากินแมลงศัตรูพืช ผู้ทรงคุณวุฒิ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยวิธีการนำหัวเชื้อของถั่งเช่าสายพันธุ์ทิเบตมาเพาะพันธุ์ และเลี้ยงให้เติบโตในของเหลวที่ให้คุณค่าทางสารอาหารคล้ายกับตัวหนอนถั่งเช่า ก่อนย้ายเข้าสู่ถังหมักชีวภาพ เพื่อควบคุมอุณหภูมิ แสง และสภาพแวดล้อม ให้ใกล้เคียงกับสภาพจริงบนเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งจะช่วยป้องกันการปนเปื้อนของโลหะหนักตามธรรมชาติได้ ก่อนจะได้ถั่งเช่าออกมาในลักษณะของแผ่นเส้นใย เพื่อเข้าสู่กระบวนการสกัดต่อไป
ถั่งเช่าตามธรรมชาติ เกิดจากหนอนผีเสื้อชนิดหนึ่งที่กินสปอร์เห็ดเข้าไปจนเกิดเป็นเห็ดราขึ้นมา ในลักษณะการพึ่งพาอาศัยกันแบบปรสิต สมุนไพรชนิดนี้จึงมี 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นตัวหนอนและเห็ด พบได้ที่ระดับความสูง 1 หมื่น - 2 หมื่นฟุตจากระดับน้ำทะเลบนเทือกเขาหิมาลัยเท่านั้น ทำให้ถั่งเช่าตามท้องตลาดราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่าล้านบาท
ตามตำราแพทย์แผนจีน ป่งเฉ่า ฉง ชิน ระบุว่าถั่งเช่าเป็นสมุนไพรบำรุงปอดและไต มีฤทธิ์เป็นหยางหรือฤทธิ์ร้อน จึงมักนำมารับประทานเพื่อสรรพคุณด้านระบบการไหลเวียนโลหิตของร่างกาย ซึ่งถั่งเช่าที่ระบุไว้คือสายพันธุ์ทิเบตเท่านั้น
ศาสตราจารย์ ดร.มณจันทร์ เมฆธน ระบุว่า ปัจจุบันมีการนำถั่งเช่ามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากมาย โดยการสกัดเป็นหนึ่งในวิธีแยกองค์ประกอบทางเคมีของถั่งเช่าออกมา เช่น สารคอดิเซปิน อะเดโนซิน โพลีแซกคาไรด์ และอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์
ผู้บริโภคจึงควรพิจารณาถึงสารจำพวกนี้ก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากถั่งเช่า
ปัจจุบันองค์การอาหารและยา หรือ อย. ได้อนุญาตจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากถั่งเช่าใน 2 กลุ่ม คือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีถั่งเช่าเป็นส่วนประกอบเพื่อบำรุงร่างกายทั่วไปเท่านั้น ดังนั้นการโฆษณาว่าผลิตภัณฑ์จากถั่งเช่า สามารถรักษาโรคได้ จึงเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโอ้อวดเกินจริง ซึ่งผู้บริโภคควรพิจารณาให้ดีก่อนการเลือกซื้อเพื่อประโยชน์กับตัวผู้บริโภคเอง