พระราชสำนัก
'ในหลวง-พระราชินี' ทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' ทรงเปิดงานตรุษจีนเยาวราช
โดย passamon_a
30 ม.ค. 2568
29 views
วานนี้ เวลา 8 นาฬิกา 43 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จลง ณ บริเวณด้านหน้าพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน พุทธศักราช 2568
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป ที่โต๊ะเครื่องสังเวย ทรงจุดธูปหาง แล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปหาง แล้วทรงปักที่เครื่องสังเวย จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วทรงเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน เพื่อทรงแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยึดถือและทรงปฏิบัติมาโดยตลอดอย่างสม่ำเสมอ
พระราชพิธีสังเวยพระป้าย จัดขึ้นครั้งแรกในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงประกอบพระราชพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดสร้างพระป้ายพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช กับพระนามสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระราชวังบางปะอิน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างพระป้ายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งเวหาศจำรูญ พระราชวังบางปะอิน เพื่อประกอบพิธีสังเวยพระป้าย เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
ขณะที่ วานนี้ เวลา 16 นาฬิกา 53 นาที สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์ โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธสัมฤทธิ์มหาจักรพรรดิ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธทศพลญาณ พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้นลงรักปิดทอง เรียกว่า หลวงพ่อโต หรือ หลวงพ่อวัดสามจีน และทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ แล้วทรงติดธนบัตรที่องค์ผ้าป่าลอยฟ้าทรัพย์ระย้า เพื่อนำปัจจัยไปบำรุงพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรรษา เนื่องในเทศกาลตรุษจีน เฉลิมฉลองปีมะเส็งมหามงคล อุดมโชคลาภ
จากนั้น เสด็จเข้าพระมหามณฑปฯ ทรงวางผ้าไตรถวายพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ พระสุโขทัยไตรมิตร เป็นพระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม เป็นเนื้อทองบริสุทธิ์ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย เดิมประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้อัญเชิญมาไว้ที่วัดพระยาไกร เมื่อการก่อสร้างพระอุโบสถและพระวิหารหลังใหม่ของวัดไตรมิตรวิทยารามแล้วเสร็จ จึงเชิญขึ้นประดิษฐาน ระหว่างการเคลื่อนย้ายปูนที่หุ้มองค์พระกระเทาะออก เห็นองค์พระข้างในเป็นทองคำ
โอกาสนี้ ทรงติดธนบัตรที่ต้นบายศรี ทรงพระสุหร่าย ทรงโปรยดอกไม้ที่องค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (จำลอง) เพื่อเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดร้างที่จะยกขึ้นเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติ วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยใด เดิมชื่อ วัดสามจีน เชื่อกันว่า ชาวจีน 3 คน ร่วมกันสร้างเพื่อเป็นวิหารทานการบุญ ในปี 2482 พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ และเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดไตรมิตรวิทยาราม มีความหมายว่า เพื่อน 3 คน ร่วมกันสร้างวัดนี้
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา วงเวียนโอเดียน ถนนเยาวราช ทรงเปิดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2568 เป็นงานที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ สภาวัฒนธรรมเขตสัมพันธวงศ์ ชาวไทยเชื้อสายจีนในเยาวราช รวมถึงภาคเอกชน ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 มกราคม 2568 เนื่องในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือเป็นเทศกาลสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน และเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย
โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กราบบังคมทูลความสำคัญ ของการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนร่วมกันของชาวไทยและชาวจีน สะท้อนถึงมิตรภาพและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น รัฐบาลจีนและรัฐบาลไทย จัดงานตรุษจีนเยาวราช นานกว่า 20 ปี ในปีนี้จะครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย หรือ ปีทองแห่งมิตรภาพจีน-ไทย 50 ปี และถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้น หลังจากเทศกาลตรุษจีนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รัฐบาลจีนได้ส่งคณะนักแสดงจากเขตปกครองตนเองซินเจียง, มณฑลยูนนาน และมณฑลเจ้อเจียง ร่วมแสดงในเทศกาลตรุษจีนเยาวราช ปี 2568 เพื่อใช้ศิลปะอันวิจิตรงดงามมอบพรปีใหม่ที่ดีที่สุดให้กับชาวไทย ส่วนการแสดงทางวัฒนธรรมไทยในพิธีเปิด ได้แก่ ชุดประสบสุขสราญรมย์สัมพันธ์ไทยจีน และการแสดงเชิดสิงโตเปิดเทศกาลตรุษจีนเยาวราช
โอกาสนี้ ทรงวางแผ่นป้ายหยิน เปิดงานตรุษจีนเยาวราช ปี 2568 จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด จุดประกายสัมผัส ร้อยรัดสองวัฒนธรรม หรือ Ignite Your Senses Embrace Our Two Cultures นำเสนอผ่านสีแดงและสีทอง สื่อถึงพลังแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และโชคลาภ
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง บูชาพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพร อัญเชิญมาจากประเทศจีน เชื่อว่าหากได้สักการะ จะหายป่วย มีสุขภาพแข็งแรง โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ เป็นองค์กรการกุศลที่จดทะเบียนเป็นมูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทย เปิดให้บริการมากว่า 120 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2446 โดยกลุ่มคหบดีชาวจีนโพ้นทะเล สละทรัพย์ สมทบกับเงินบริจาคของประชาชน เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาล ให้บริการตรวจรักษา และจ่ายยาจีนแก่ผู้ป่วยยากไร้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่วนแผนกแพทย์แผนปัจจุบัน ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป รวมถึงฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย โดยเก็บค่ารักษาในราคาประหยัด
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ และการออกร้านของหน่วยงาน อาทิ ร้านภูฟ้า และภัทรพัฒน์ มูลนิธิชัยพัฒนา ในการนี้ ทรงผัดโหงวก้วย โดยใช้น้ำมันเมล็ดคามิเลีย เพื่อพระราชทานแก่คณะผู้จัดงาน ผัดโหงวก้วย เป็นหนึ่งในเมนูอาหารมงคลของคนจีน ที่เชื่อกันมาแต่โบราณว่าจะช่วยให้ชีวิตโชคดี เจอแต่เรื่องดี ๆ สิ่งดี ๆ
จากนั้น ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์ของร้านมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า, มูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มูลนิธิรามาธิบดี รวมทั้งนิทรรศการผลงานการแลกเปลี่ยน และความร่วมมือด้านการศึกษาจีน-ไทย ครั้งที่ 5 ให้ผู้เข้าชมงานทดลองเขียนพู่กันจีน ในการนี้ ทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย ซองอั่งเปาจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แล้วพระราชทานแก่ตัวแทนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตสัมพันธวงศ์ เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนในชุมชน
แล้วทอดพระเนตรบูธนิทรรศการความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน 50 ปี, บูธสภาวัฒนธรรม เขตสัมพันธวงศ์ เผยแพร่ความรู้พิธีไหว้บูชาดาวนพเคราะห์ เป็นพิธีทางศาสนาตามความเชื่อของจีน เพื่อให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรือง และแคล้วคลาดภยันตรายทั้งปวง, บูธกลุ่มทีซีซี จำหน่ายสินค้าของกลุ่ม และชุมชน นำรายได้มอบให้แก่โรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ และบูธคลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว ให้บริการคำปรึกษา และความรู้ทางการแพทย์แผนจีน โดยตลอดเส้นทางถนนเยาวราชที่ทรงพระดำเนิน มีประชาชนพร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญ