พระราชสำนัก

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

โดย petchpawee_k

27 ก.พ. 2567

69 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567


วานนี้ ( 26 ก.พ.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในการนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ฯ ซึ่งอัญเชิญมาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567


จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ฯ มาประดิษฐานในประเทศไทยครั้งนี้ รัฐบาลไทย ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ที่ประดิษฐานที่พิพิธภัณฑ์กรุงนิวเดลี ซึ่งขุดพบจากสถูปโบราณเมืองปิปราห์วา และอัญเชิญพระอรหันตธาตุ ของพระอัครสาวก พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากเมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐาน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ และเพื่อเป็นการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ


ในการนี้ ทรงจุดไฟจากโคมไฟฟ้า และพระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปตั้งที่มณฑปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นจะเชิญไปตั้งยังส่วนภูมิภาค พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมานี้ เป็นที่รู้จักในชื่อ "พระธาตุกบิลพัสดุ์" เนื่องจากมาจากสถานที่ในแคว้นมคธ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเมืองโบราณแห่งกบิลพัสดุ์ พระบรมสารีริกธาตุ ถือว่าเป็นโบราณวัตถุ และสมบัติทางศิลปะ ประเภท AA คือ วัตถุโบราณที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงสุด โดยปกติแล้วจะไม่นำออกนอกประเทศ จึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในรอบ 2 พัน 567 ปี ที่พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ทั้งเบื้องขวาและเบื้องซ้าย ทั้งสององค์เสด็จมาพร้อมกัน และเป็นครั้งแรกในรอบ 72 ปี ที่มีการอัญเชิญพระอรหันตธาตุ ของพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ออกนอกประเทศ หลังจากได้รับการส่งมอบคืนให้กับสาธารณรัฐอินเดีย


พระบรมสารีริกธาตุ คือ พระบรมอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ นับเป็นปูชนียวัตถุแทนพระพุทธองค์ ที่พุทธศาสนิกชนนับถือบูชาแต่แรกปรินิพานสืบมาจนถึงปัจจุบัน ในมหาปรินิพพานสูตรกล่าวถึงพระบรมสารีริกธาตุว่า หลังจากการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระแล้ว โทณพราหมณ์ได้แบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็น 8 ส่วน เพื่อให้กษัตริย์และพราหมณ์ อัญเชิญกลับไปยังดินแดนของตน 8 เมือง และหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานได้ 270 ปี พระเจ้าอโศกมหาราชที่ทรงศรัทธา ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก โปรดให้สังคายนาพระธรรมวินัย รวบรวมพระบรมสารีริกธาตุทั่วราชอาณาจักร มาบรรจุไว้ในสถูป ที่ทรงรับสั่งให้สร้างขึ้น จำนวน 8 หมื่น 4 พันสถูป และมอบให้พระสงฆ์นำไปประดิษฐาน ณ ดินแดนต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปยังนานาประเทศ


จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ไปสักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระอัครสาวก ในพื้นที่ต่าง ๆ โดยที่ท้องสนามหลวง เปิดให้เข้าสักการะจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2567, ภาคเหนือ ที่มณฑป ณ หอคำหลวง อุทยานราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5-8 มีนาคม 2567, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 10 – 13 มีนาคม 2567 และภาคใต้ ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม 2567

Related News