เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์สองสามีภรรยา โดยภรรยาทราบชื่อนางภวันตรี  ยะคำป้อ อายุ 53 ปี เสียชีวิต ส่วนสามีคือนายอินเนตร  ยะคำป้อ อายุ 49 ปี  ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณสะพานคลองเปรมประชากร ถนนรังสิต-ปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 9 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา

ขณะที่ผู้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อ Janjira Pengjaroon  ได้เผยแพร่ภาพกล้องหน้ารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ โดยจับภาพรถจักรยานยนต์ของ 2 สามีภรรยาที่ขี่ซ้อนท้ายกันมาอยู่บริเวณไหล่ทางด้านซ้าย จากนั้นรถเก๋งขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนฟุตบาทคอสะพานและกระแทกไปชนกับรถ จยย. อย่างแรงฝุ่นควันตลบ

ทำให้รถเก๋งพลิกคว่ำไถลไปไกล เศษซากรถปลิวกระจายตกตามท้องถนน ส่วนรภจักรยานยนต์ พังยับเยินอยู่กลางถนน คนขี่รถจักรยายนต์นอนเจ็บโอดโอย ก่อนที่จะมีคนจอดรถลงไปช่วย

หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วี ออส ทะเบียน 6กฒ 5684 สีขาว กรุงเทพฯ เสียหลักและพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า สภาพพังยับเยิน ชิ้นส่วนอะไหล่แตกกระจาย ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบผู้เสียชีวิต 1 ราย

จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารทางราชการใด ๆ ติดตัว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สภาพพังยับเยินยี่ห้อฮอนด้า รุ่น Click สีแดงดำหมายเลขทะเบียน 2กข 3901 กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

นายพีรพล หรืออ้วน (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 37 ปี คนขับรถเก๋ง (คู่กรณี) อ้างว่า ระหว่างที่ตนขับรถมาจากทางวัดเสด็จ จะมารับแฟนที่ทำงานร้านสะดวกซื้อ เลิกงานตอน 4 ทุ่ม ในระหว่างที่ขับมาตนไม่เห็นรถจักรยานยนต์ เห็นอีกทีรถจักรยานยนต์ขับมาตัดหน้ารถตัวเองและเหตุการณ์เกิดขึ้นไวมาก  

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจวัดแอลกอฮอล์พบมีปริมาณแอลกฮอล์วัดได้ 155 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์  เจ้าตัวยังโต้เถียงกับตำรวจว่า “ผมมีอะไรผิดกฎหมายมั้ยล่ะ” ก่อนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป โดยมีเพื่อนขับรถเก๋งมารับฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ

ผู้เห็นเหตุการณ์ (เจ้าของกล้องหน้ารถ) เล่าว่า  ก่อนเกิดเหตุในระหว่างสามีขับรถอยู่นั้น ได้มองเห็นรถคันนึงพยายามซิ่งด้วยความเร็ว ตรงมาจากฝั่งซ้าย เมื่อมองดูกระจกมองข้างก็เห็นรถพยายามซิ่งผ่านรถตนเองไป สามีไม่กล้าเลี้ยวรถชิดซ้าย เพื่อจะเข้าจุดกลับรถกลับบ้าน จึงชะลอ ให้รถคันดังกล่าวขับผ่านไปก่อน

เมื่อรถผ่านไปทำให้เห็นว่ารถซิ่งความเร็วเกินกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เสียหลักชนเข้ากันฟุตบาทคอสะพาน ก่อนจะกระแทก รถ จยย. ที่จอดกระพริบไฟซ้ายสุดอยู่ริมถนน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 1  ราย

หลังจากที่ชนแล้ว รถลอยเหินพลิกคว่ำระยะทางไกลเกินกว่า 50 เมตร คนขับรถเก๋ง (คู่กรณี) มีทีท่าเหมือนพยายามหนี ชาวบ้านจึงไล่ต้อนมาที่เกิดเหตุสภาพมึนเมา พอตรวจแอลกอฮอล์ค่าวัดได้ วัดได้ 155 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์   ตนเองถามว่าทำไมขับเร็วอย่างนี้

ด้านนายพีรพล ผู้ก่อเหตุ ระบุว่า “ไม่ได้ขับเร็วขับมาปกติ” ซึ่งคนเห็นเหตุการณ์หลาย ๆ คนก็มาช่วยพูดว่า นายพีรพล ขับรถซิ่งปาดหน้ารถหลายคันและมีเฉี่ยวชนกับรถคนอื่นก่อนมาเกิดเหตุนี้

ทั้งนี้ญาติได้นำนางภวันตรี ผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดนาบุญ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี  ภายในงานเต็มไปด้วยความโศรกเศร้า สามีรักษาตัวที่โรงพยาบาลในขณะนี้ไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานศพได้  ส่วนลูกชายได้ทำการบวชหน้าไฟให้แม่ที่เสียชีวิต  

ญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจแล้วเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา แต่คนขับรถเก๋งคู่กรณียังหลบหนี ตำรวจยังไม่ออกหมายจับ และไม่มีการติดต่อญาติผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

นายวรเนตร ยะคำป้อ อายุ 27 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตได้สึกแล้ว เผยกับผู้สื่อข่าวว่าหลังเกิดเหตุพ่อโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อและแม่ถูกรถชนให้รีบไปโรงพยาบาล จากนั้นวางสายไป ไม่นานพ่อได้โทรกลับมาอีกครั้งบอกว่า “ลูกแม่เสียแล้ว” ตนเองตกใจและช็อกมาก จึงรีบขี่รถจักรยานยนต์ไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

ตนเองคุยกับพ่อ พ่อได้พูดกับตนเพียงว่า “ลูกพ่อขอโทษ พ่อไม่ตั้งใจ “ เพราะพ่อตอนนี้ยังเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากพ่อคิดตลอดว่าเป็นคนพาแม่ออกมาข้างนอกและเป็นเหตุให้แม่ถูกรถชน  อาการของพ่อตอนนี้ แขนซ้ายหักกระดูกทะลุออกจากผิวหนัง  เส้นเอ็นนิ้วโป้งฉีกขาด สะบักไหล่ซ้ายหัก ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ กำลังรอแพทย์ประเมินเพิ่มเติมอีกครั้ง ขณะนี้ อยู่ในความดูแลของแพทย์

ลูกชายของผู้เสียชีวิต อยากให้นายพีรพล เข้ามอบตัวและมาขอโทษ คู่กรณีทำผิดร้ายแรงมาก อยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ครอบครัวตนเองมีเพียงแค่ 3 คน ตอนนี้ขาดแม่ไปแล้ว พ่อบาดเจ็บยังคงต้องรักษาตัวค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง พ่อเสียใจมากคิดว่าพาแม่มาตาย เหตุเกิดขึ้นนานกว่า 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังติดตามตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้ ทำงานล่าช้ามาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต บอกจะออกหมายจับให้วันนี้ (17 ม.ค.)

ทางด้านนายพีรพล  ผู้ก่อเหตุ  หลังหลบหนีไป  แฟนของผู้ก่อเหตุได้เข้ามาให้ปากคำ ระบุเพียงว่าเป็นเจ้าของของคันที่เกิดอุบัติเหตุ ตนเองจอดรถเอาไว้ที่บ้าน และนายพีรพล ได้นำรถไปใช้ อีกทั้ง พ.ร.บ.รถขาด ประกันขาด ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายพีรพล  

ทั้งนี้แฟนของนายพีรพล ได้เดินทางไปงานศพและได้ไหว้ขอขมาในฐานะญาติผู้ก่อเหตุ พร้อมขอโทษและแสดงความเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้นและในสิ่งที่แฟนตนเองได้ทำ มอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าทำศพจำนวน 4,000 บาท แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเยียวยาครอบครัวแต่อย่างใด

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/fT25efgDbhM