เมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านพักในพื้นที่ หมู่ 7 ซอยมูลนิธิ เสียน เหลียง เอวี้ยน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้นแบ่งเป็นห้องให้เช่า มีทั้งหมด 14 ห้อง



เมื่อเข้าไปถึงพบ นางอโณทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 96 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย นั่งเหม่ออยู่ที่ประตูหน้าห้องซึ่งเป็นแม่ของ นางสุธาริน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ก่อเหตุเข้าไปขโมยสินค้าในร้าน มินิบิ๊กซี และได้ใช้มีดแทงพนักงานจนได้รับบาดเจ็บ โดยสิ่งที่ขโมยออกไปเป็นขนมปัง 2 ห่อ ขนมเยลลี่ 1 ห่อ น้ำอัดลม 1 ขวด มูลค่า 59 บาท เหตุเกิดภายในร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี หน้าหมู่บ้านพฤกษา 26 หมู่ที่ 4 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และสามารถจับกุมตัวได้ที่ซอยเพชรเกษม 81 ภายในปั๊มแก๊ส แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพ



นางอโณทิยพ์ เล่าว่า หลังก่อเหตุลูกสาวของตนได้โทรมาบอกว่าได้ไปก่อเหตุขโมยของและแทงพนักงานที่บิ๊กซี ตอนนั้นตนตกใจมากไม่คิดว่าลูกจะทำจริง และยังบอกให้ลูกมามอบตัว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อหรือกลับมาหาตนที่บ้านอีกเลย อาจจะไปหลบอยู่ที่บ้านแฟน แต่ตนก็ไม่รู้ว่าบ้านแฟนเขาอยู่ที่ไหน ตอนเกิดเหตุมีตำรวจเข้ามาหาที่บ้านหลายคนเพื่อมาสอบถามถึงลูกสาวตน แต่ตนก็ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกหนีไปอยู่ที่ไหน จนมารู้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับได้แล้วตามข่าว



ตนเลี้ยงลูกสาวคนนี้มาจนถึง อายุ 15 ปี นิสัยของลูกสาวเป็นคนที่ติดเพื่อนมาก เรียนจบแค่ชั้น ป.5 หลังจากนั้นก็มีแฟนแล้วก็ย้ายออกไปอยู่กับแฟน ลูกสาวตนเคยติดยาเสพติดมาก่อน ไม่รู้ว่าตอนนี้เลิกหรือยัง หรือที่ไม่มีเงินจนต้องมาก่อเหตุเพราะสาเหตุจากยาเสพติดหรือไม่ จนกระทั่งมีลูกก็เอาลูกมาให้เลี้ยง ตนก็เลี้ยงหลานมาจนโต ไม่เคยได้รับเงินเลี้ยงดูจากลูกสาวเลยแต่ก็ไม่ว่าอะไร ต่อมาลูกสาวตนก็มีลูกอีกสองคนกับแฟนคนเก่า ก็เอาลูกมาให้ตนเลี้ยงเหมือนเดิม ลูกสาวตนมีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกสาวคนโตอายุ 18 ปี คนกลาง 13 ปี และคนเล็ก 9 ขวบ ทั้งคู่เป็นเด็กผู้ชาย จนกระทั่งลูกสาวตนมีแฟนใหม่ และในวันที่เกิดเหตุก็กำลังจะพาลูกชาย2 คนเดินทางไปที่บ้านแฟนใหม่ แต่ก็มาก่อเหตุซะก่อน



นาอโณทิพย์ กล่าวต่ออีกว่า ถึงแม้ว่าลูกสาวตนจะไม่ค่อยติดต่อหรือเข้ามาหาตนเลย หรือว่าบางทีจะเข้ามาหาเฉพาะเวลามีปัญหา ตนก็รักลูกแต่ก็ต้องให้เขาชดใช้ในสิ่งที่เขาทำด้วย วันนี้หลานสาว ซึ่งเป็นลูกสาวคนโตได้เดินทางไปเยี่ยมแม่ของเขา ตนก็ได้ฝากเงินไปจำนวน 200 บาท เพราะไม่มีเงิน เพื่อให้หลานเอาไปซื้อข้าวซื้อน้ำไปเยี่ยม จนกระทั่งหลานโทรมาหาว่าอยากให้หาเงินจำนวน 20,000 บาท เพื่อมาประกันตัวแม่ แต่ตนบอกหลานไปว่า จะไปหายืมให้เป็นหนี้ทำไม ประกันออกมาแล้วจะทำอะไรได้ ยังไงก็ผิดอยู่ดีก็ต้องรับโทษที่ได้ไปทำไว้



ห่วงก็แต่หลานชายอีก 2 คน เพราะย้ายมาจากบางแคได้สองปีแล้ว และไม่ได้เรียนหนังสือ น้องเก้าอายุ 13 ปี ย้ายมาจากบางแคตั้งแต่ ป.2 จนตอนนี้อายุ 13 ปี แล้ว ยังไม่ได้เข้าเรียนต่อที่ไหนเลยเพราะแม่เขาไม่ค่อยใส่ใจ น้องกั๊ก อายุ 9 ขวบก็เช่นกัน ยิ่งตอนนี้ตนต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานอีกสองคน ทางฝั่งพ่อน้องเขาก็ไม่ได้ติดต่อมาช่วยเหลืออะไรเลย ตนเองก็เก็บของเก่าขาย วันๆ นึงได้ไม่เท่าไร ยังดีที่เพื่อนบ้านคอยหางานมาให้ทำ ก็พอจะเลี้ยงดูหลานๆ ให้อยู่ได้ โดยตนได้บอกหลานๆ ไปแล้วว่า มีอะไรก็ต้องกินไปก่อนนะ ตอนนี้ไม่อยากได้อะไรเลยแค่อยากให้หลานๆ ได้เข้าเรียนได้มีที่เรียนเพราะน้องเก้าอยากเรียนมากๆ หากมีเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานไหนสามารถช่วยน้องได้ ก็อยากให้เข้ามาช่วยน้องที

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/7JBoUnNRps4