กระทรวงสาธารณสุขเปิดเผยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศล่าสุด พบแนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนเริ่มทรงตัว โดยหากแนวโน้มดีขึ้น จะเสนอให้ ศบค.พิจารณาผ่อนคลายมาตรการ พร้อมลดระยะเวลากักตัวกลุ่มเสี่ยงสูงจากเดิม 10 วัน เหลือ 7 วัน



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำทีมผู้บริหารกระทรวง ร่วมแถลงถึง สถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้ โดยระบุว่า ในฐานะภาครัฐบาล พร้อมสนับสนุนและรับฟังข้อเสนอจากทีมแพทย์ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากที่สุด หากทุกอย่างมีแนวโน้มดีขึ้น ขอยืนยันว่า จะเร่งเสนอ ศบค.พิจารณาผ่อนคลายมาตรการให้เร็วที่สุด



ขณะที่สถานการณ์หลังผ่านเทศกาลปีใหม่มา 14 วัน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า มีแนวโน้มที่จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะค่อนข้างทรงตัว การแพร่กระจายของโรคคงที่ อัตราการเสียชีวิต ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยหนึ่งมาจากตัวโรคที่มีความรุนแรงน้อยลง และการฉีดวัคซีนที่คลอบคลุม ล่าสุดมีผู้ได้รับวัคซีนสะสม 108,594,507 ล้านโดส



ส่วนการพิจารณาลดวันกักตัว ในกลุ่มเสี่ยงสูงเหลือ 7 วัน จากเดิม 10 วัน โดยให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ได้ในวันที่ 5-6 หากไม่พบเชื้อ ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล และจะต้องตรวจหาเชื้อด้วย ATK อีกครั้งในวันที่ 10 หากผลเป็นลบก็ถือว่าพ้นมาตรการกักตัว



นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันถึงประสิทธิผลการฉีดวัคซีนในแต่ละสูตรของไทย หลังพบว่า การฉีดวัคซีนทุกประเภท ทุกสูตร มีประสิทธิผลสูงสุดกว่า 90% โดยป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต



ซึ่งทางกระทรวงมีนโยบายฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็ม 3 ในเดือนมกราคมนี้ จึงขอให้ประชาชนมาฉีดได้ในโรงพยาบาลใกล้บ้าน และตามช่วงเวลาที่ได้รับในแต่ละเข็ม



ล่าสุดในปีนี้ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งซื้อวัคซีนไปแล้วอีก 90 ล้านโดส ยืนยันว่า มีเพียงพอแน่นอน



ส่วนด้านการบริหารจัดการเตียง นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า ขณะนี้ได้แบ่งผู้ติดเชื้อที่จะเข้ารับบริการ 3 ประเภท คือ หน่วยตรวจเชิงรุก สถานพยาบาลและการตรวจหาเชื้อเองด้วย ATK หากพบผลบวก จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินอาการ ก่อนโทร 1330 เพื่อลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเข้ารับการรักษา



หากเป็นกลุ่มไม่มีอาการจะเน้นรักษาแบบ โฮมไอโซเลชั่น และ คอมมิวนิตี้ไอโซเลชั่น ส่วนกลุ่มอาการรุนแรงจะถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนาม ใช้เวลาการักษา 10 วัน



ข้อมูลล่าสุด ภาพรวมการครองเตียงวันที่ 13 มกราคม มีอัตราครองเตียงทั้งประเทศ 46,873 โดยกรุงเทพมหานครมีอัตราครองเตียงแล้ว 11,742 เตียง เพิ่มขึ้นเร็วกว่า วันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา



ส่วนผู้ติดเชื้อวันนี้มีทั้งหมด 8,158 คน รักษาตัวอยู่ 74,795 คน แบ่งเป็นอาการหนัก 510 คน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 105 คน เสียชีวิตเพิ่ม 15 คน รวมสะสม 21,898 คน แต่หากนับเฉพาะช่วง 1-14 มกราคมที่ผ่านมา ไทยจะมีผู้ติดเชื้อสะสม 85,180 คน และ เสียชีวิตสะสม 200 คน