‘ปศุสัตว์’ โต้ ‘เฮียแป้น’ ขี้โม้! อ้างหมูตายนับร้อย ตั้งแต่กลางปี 64 ยันสามพราน ไม่พบ ASF

เศรษฐกิจ

‘ปศุสัตว์’ โต้ ‘เฮียแป้น’ ขี้โม้! อ้างหมูตายนับร้อย ตั้งแต่กลางปี 64 ยันสามพราน ไม่พบ ASF

โดย thichaphat_d

14 ม.ค. 2565

216 views

กรณีฟาร์มหมูแห่งหนึ่งใน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เจ้าของฟาร์มบอกเคยเลี้ยงหมูเต็มที่ 5,000 ตัว ตอนนี้เหลือไม่เกิน 50 ตัว ก่อนพาไปดูโอ่งขนาดใหญ่วางเรียงกันจำนวน 9 ใบ ถูกปิดด้วยกระเบื้องหลายชั้น เปิดฝาดูกลิ่นเหม็นโชยออกมา ในโองแต่ละใบเต็มไปด้วยซากหมูเน่า เปื่อยหลายร้อยตัว บางโอ่งเน่าเหลือแต่กระดูกเจ้าของฟาร์ม ทั้งหมดทยอยตายตั้งแต่กลางปี 2564 เชื่อว่าสาเหตุเกิดจากหมูติดโรค ASF    


รอบๆ ฟาร์ม พบว่ามีซากหมูตาย โครงกระดูกหมูถูกทิ้งเกลื่อนข้างๆ โรงเลี้ยงไม่ได้ฝังกลบ ใกล้ กันมีพงหญ้ารกทึบ เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ เจ้าของบอกว่าพื้นที่นี้ได้ขุดฝังกลบหมูไม่ต่ำกว่า  200  ตัว และเต็มพื้นที่ ทำให้หมูที่ตายหลังจากนี้ถูกจับยัดโอ่งทั้งหมด ซากหมูเหล่านี้ ชี้ให้เห็นได้ว่าหมูในพื้นที่ดังกล่าวตายมานานแล้ว และทยอยตายมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้แจ้งให้หน่วยงานใดทราบ และไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาตรวจสอบ    


วานนี้ (13 ม.ค. 65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้คุยกับนายชาตรี กิจสมัคร หรือเฮียแป้น อายุ 69 ปี เผยว่า ตอนที่หมูเป็นโรคพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าของฟาร์มไม่มีใครออกมาพูด เพราะหมูตายหมดแล้ว ทุก ฟาร์มเป็นเหมือนกันหมด ฟาร์มของตนก็เกือบร้าง โดยหมูที่ตายบางส่วนยัดใส่โอ่งทำ EM จุลินทรีย์ บางตัวมีแรงยกฝัง ก็ลากไปทิ้งไว้ในดงหญ้า เอา EM ราดดับกลิ่น    


แต่กลิ่นก็ยังเหม็นฟุ้งไปทั่วบริเวณหลายร้อยเมตร จนเสมียนโรงงานข้างๆ โทรมาแจ้งทนกลิ่นเหม็นไม่ไหว ซากหมูบางส่วนทำลายโดยการขุดหลุมฝังกลบภายในฟาร์ม บางตัวชำแหละเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปฝังเพราะยกไม่ไหว หมูตัวที่ยังมีชีวิตจะนำไปขายไม่ได้ ไม่มีใครเอา ถ้านำไปขายกิโลกรัมละ 2 บาท ตนจึงไม่ขาย รอให้ตายอย่างเดียว หวังว่าที่เหลืออยู่ในฟาร์มตอนนี้ จะมีชีวิตรอดบ้าง    


“ถ้าภาครัฐปกปิดข้อมูลให้ความร่วมมือกับผู้เลี้ยง ไม่ปิดฟาร์มช่วยกันแก้ไขปัญหา หมูไม่เสียหาย   ขนาดนี้ หมูตายเพราะเจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานเช้าชามเย็นชาม เจ้าของฟาร์มหรือเกษตรกรรายย่อยที่พบว่าหมูตายด้วยเชื้อ ASF ไม่ออกมาพูดเพราะกลัวอำนาจมืด และกลัวขายหมูที่เหลือไม่ได้ ต่างคนต่างเอาตัวรอด ชิงกันขาย ขายถูกๆ ก็ขาย เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย”  


“หมูติดโรคตายรัฐไม่แก้ไข รู้สึกเหมือนเลือก ส.ส.ชั้นเลวเข้าไปนั่งในสภาฯ แล้วโกงบ้านกินเมือง  เราทำอะไรไม่ได้เพราะเป็นประชาชน เราเป็นเกษตรกรคนทำมาหากิน ไม่ใช่นักเลงหรือผู้มีอิทธิพล ฟังกรมปศุสัตว์แถลงแล้วขำ คิดว่าคงพูดเอาตัวรอด หมูเป็นโรคตายมานาน 2 ปี ทำไมถึงเพิ่งมาพูด เป็นเพราะอะไร รู้อยู่แก่ใจกันหมด เดี๋ยวนี้คนไทยไม่ได้โง่ ส่วนรัฐบาลไม่ต้องไปพูดถึง ไม่คิดหวังพึ่งรัฐบาล”  



‘เฮียแป้น’ กล่าวต่อว่า ตนเปิดฟาร์มให้มาดู เพราะไม่คิดจะเลี้ยงหมูอีกแล้ว ทำไปขาดทุนแล้วจะทำไปทำไม และอยากสะท้อนให้รัฐเห็นว่า “เรื่องจริงมันเป็นอย่างนี้และเป็นมานาน แล้วปกปิดกัน ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด ปิดไม่มิดหรอก บางฟาร์มหมูตายขนไปฝังกลบ รถสิบล้อยังเอาใส่ไม่หมด” ปัญหาของชาติสำคัญกว่าปัญหาส่วนตัว   


หลังจากที่สื่อนำเสนอข่าวไป และมีการเปิดเผยเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่รัฐร้อนตัว  และมีคนโทรข่มขู่ว่า ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวทำไม “มึงปากอย่างนี้ไม่กลัวตายหรอ มึงระวังชีวิตมึง”  ตนไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่โทษใคร ลั่น ผมไม่กลัวหรอก ผิดคือผิดถูกคือถูก ถ้าผมผิดผมกราบเลย ถ้าผมไม่ผิดต่อให้มึงใหญ่ล้นฟ้ากูก็ไม่กลัวมึง  คนอย่างผมไม่เคยกลัวใคร ถ้ากลัวไม่ออกมาพูดหรอก  ถ้าจะยิงก็ยิงข้างหน้าอย่ายิงข้างหลัง ยิงข้างหลังไม่ใช่ลูกผู้ชาย”    


หลังจากที่ทีมข่าวหลายสำนัก ที่เข้าไปทำข่าวในฟาร์มของเฮียแป้นพากันกลับ ช่วงเย็นผู้สื่อข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ วกกลับมาที่ฟาร์มอีกครั้ง พบกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท กรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่มาสอบสวนโรค  และเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันตก จ.ราชบุรี กรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นศูนย์ชันสูตรโรคฯ  ลงพื้นที่มาเก็บตัวอย่างซากหมูตายในโอ่ง ซากกระดูกหมูตายท้ายคอก และพื้นผิวสัมผัส (surface swab) ตามโรงเรือนต่างๆ ที่มีหมูอยู่


ทั้งนี้ทาง เจ้าของฟาร์มไม่อนุญาตให้เก็บตัวอย่างเลือดหมู ซึ่งจะเก็บตัวอย่างไปตรวจหาเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever:ASF)  ด้วยวิธี Real-Time PCR  และเก็บซากลูกหมูที่ตายไปตรวจด้วย จะทราบผลไม่เกิน 2 วัน หากตรวจพบก็จะแจ้งให้กรมปศุสัตว์ทราบ ทางกรมฯ อาจ พิจารณาสั่งการมายังปศุสัตว์เขต และปศุสัตว์จังหวัดเพื่อดำเนินการตามระเบียบต่อไป


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้คุยกับนายไพศาล  ตาไฝ ปศุสัตว์อำเภอสามพราน จ.นครปฐม เผยว่า เฮียแป้นแจ้งว่าหมูเริ่มตายตั้งแต่กลางปี 2564 ฝังนับพันตัว นำซากยัดใส่โอ่งอีกนับร้อย แต่ข้อมูลที่ตนมีพบว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ฟาร์มของเฮียแป้นมีหมูไม่เกิน 50 ตัว ปัจจุบันเหลือหมูประมาณ 10 กว่าตัว จะอ้างว่ามีหมู 5,000 ตัวได้อย่างไร  


พร้อมระบุว่า “เฮียแป้นขี้โม้ ถ้าหมูตายด้วยเชื้อ ASF จริง ให้เอาผลตรวจมายืนยัน ไม่ใช่พูดลอยๆ  มันเสียหาย เราเป็นเจ้าหน้าที่จะไปทำอะไรได้  นักข่าวจะเชื่อผมหรือจะเชื่อเขา ข้อมูลของใครเป็นความจริงกันแน่ เฮียแป้น ก็ยืนยันกับตนว่าตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เลี้ยงไม่เกิน 50 ตัว ความเป็นจริงก็เห็นๆ กันอยู่ เขาอยากพูดก็พูดไป แต่ข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างนี้  คนๆ นี้ผมไม่เชื่อ คนในพื้นที่ไม่มีใครเชื่อเฮียแป้น”


“ยืนยันในพื้นที่อำเภอสามพรานไม่เคยมีโรค ASF ถ้ามีต้องปฏิบัติตามระเบียบการสอบสวนโรค ประกาศเขตโรคระบาด ส่วนหมูที่ตายไม่ทราบสาเหตุ เกษตกรผู้เลี้ยงหมูก็ไม่เคยแจ้งให้ทราบว่ามีหมูตาย ที่ให้ข่าวว่าหมูในพื้นที่สามพรานตายด้วย ASF ผมว่ามันไม่น่าใช่ เราเก็บตัวอย่างทั้ง ฟาร์มหมู ห้องเย็นโรงฆ่าสัตว์ เข้าห้องแล็บตรวจหาโรค ตามมาตรการของกรมมาโดยตลอดทุกเดือน ซึ่งมีผลรับรองจากห้องปฏิบัติของ สวพ.ตะวันตก กรมปศุสัตว์


ส่วนหมูในฟาร์มของเฮียแป้นตาย เราไม่ได้มาตรวจสอบเพราะเขาไม่ได้แจ้งเรา ที่บอกว่าหมูตายเยอะเอาข้อมูลมาจากไหน  มันไม่ได้ตายเยอะอย่างที่รับรู้มาหรอก หมูในฟาร์มเกือบจะเป็นศูนย์ พอเจ้าของทราบข่าวว่าหมูติดโรคตายก็เร่งขาย”  


ปศุสัตว์อำเภอสามพราน ระบุว่า ในพื้นที่อำเภอสามพราน มีฟาร์มหมูทั้งขนาดใหญ่และรายย่อยที่ขึ้นทะเบียน 67 ฟาร์ม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ชุมชน  ตนมีข้อมูลว่าแต่ละฟาร์มเลี้ยงกี่ตัว บางฟาร์มก็ย้ายไปตั้งฟาร์มใหม่อยู่ราชบุรี แต่โรงเรือนเก่าก็ยังมีอยู่ ตนตั้งกลุ่มไลน์ไว้สื่อสารกันเพื่อเฝ้าระวังเกี่ยวกับโรคนี้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ySm7ZwtM2ko

คุณอาจสนใจ