ศบค.ปรับพื้นที่คุมโควิด-19 สีส้ม 69 จังหวัด สีฟ้า 8 จังหวัด และอีกบางส่วนใน 18 จังหวัด

สังคม

ศบค.ปรับพื้นที่คุมโควิด-19 สีส้ม 69 จังหวัด สีฟ้า 8 จังหวัด และอีกบางส่วนใน 18 จังหวัด

โดย weerawit_c

8 ม.ค. 2565

661 views

จากการคาดการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาด หากปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการติดเชื้อ ในปลายเดือนมกราคมต้นเดือนกุมภาพันธ์การติดเชื้อจะอยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน จึงเป็นข้อห่วงใยที่เกิดขึ้น ซึ่งพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จึงใช้เวลาในการประชุมช่วงเช้า เพื่อเตรียมมาตรการรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่สิ่งที่ทำให้ชื้นใจได้อีกนิดนึง คืออัตราการเสียชีวิตนั้นยังคงต่ำกว่าภาพฉากทัศน์ที่เคยประมาณการเอาไว้ จึงทำให้ทราบว่าความรุนแรงของเชื้อโอมิครอน ไม่เท่ากับความรุนแรงของเชื้อเดลต้า



โดยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดกระทรวงสาธารณสุขได้ยกระดับการเตือนภัยโรคโควิด-19 สำหรับประชาชนจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 คือให้ปิดสถานที่เสี่ยงชะลอการเดินทางข้ามจังหวัดเน้นฟอร์มโฮมจำกัดการรวมกลุ่มและเข้มมาตรการ VUCA คือวัคซีน Universal prevention / covid free setting และ ATK



ขณะที่การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร เพื่อปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรค โดยเป็นการยกระดับพื้นที่สีส้ม หรือพื้นที่ควบคุม 69 จังหวัด ซึ่งจากเดิมมีเพียง 39 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรีฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนมนครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ปราจีนบุรี ปัตตานี



พระนครศรีอยุธยา พะเยาพัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธรยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรีลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลาสตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาครสระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรีสุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภูอ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์อุทัยธานี และอุบลราชธานี



โดยพื้นที่สีส้ม ในกิจกรรมร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร ให้บริโภคในร้านได้ เปิดได้ตามปกติแต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ขณะที่ ร้านสะดวกซื้อตลาดและตลาดนัดยังสามารถเปิดบริการได้ตามปกติ ไม่มีการควบคุมการห้ามออกนอกเคหสถาน



สำหรับพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา ภูเก็ต และจังหวัดอื่นที่ดำเนินการบางพื้นที่อีก 18 จังหวัด ในส่วนของร้านอาหารทั้งในและนอกศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่อื่นใดที่มีร้านอาหาร ให้สามารถบริโภคในร้านได้เปิดได้ตามปกติ โดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสามารถพิจารณากำหนดมาตรการและเพิ่มเวลาเพิ่มเติมได้ตามสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่



โดยการปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรค โควิด 19 มีข้อเสนอมาตรการอีก 3 ข้อย่อย คือการขยาย work from home อีก 14 วัน ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 แต่จะต้องไม่กระทบต่อการบริการประชาชนและการดำเนินการขององค์กร



ทั้งนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ระบุว่า ต้องยอมรับว่าสาเหตุการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน เกิดจากการดื่ม จึงทำให้เกิดข้อถกเถียงกันในที่ประชุมศบค. เพื่อผ่อนคลายกิจกรรมกิจการ แต่ต้องเข้มมาตรการให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ตัดช่องทางการแพร่ระบาดของเชื้อโรคลงได้



ขณะที่การปรับมาตรการสถานบันเทิง ด้วยในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาพบว่าหลายสถานบันเทิงได้เปิดบริการ โดยปรับเป็นร้านอาหารแต่จำหน่ายสุรา ซึ่งไม่ถูกต้องเท่าไร ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไปทั่วประเทศ ยังไม่สามารถเปิดบริการได้ในวันที่ 16 มกราคม 2565 นี้โดยขอเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน แต่สิ่งที่สามารถปรับรูปแบบไปได้ คือขอปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นร้านอาหารได้ โดยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือกรุงเทพฯ



ส่วนในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ที่ก่อนหน้านี้มีการอนุญาตให้บริโภคสุราในร้านอาหารได้ ขอจำกัดเวลาให้ไม่เกิน 21.00 น โดยร้านอาหารดังกล่าวจะต้องผ่านมาตรฐาน Sha+ หรือ Thai Stop covid 2 Plus เท่านั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่า การมีส่วนร่วมในการเห็นชอบเป็นเรื่องที่สำคัญ ร้านอาหารต้องการให้โอกาสในการเปิด ทั้งศบค.จึงได้มีมาตรการที่ผ่อนปรนเพื่อให้สามารถเปิดดำเนินกิจการได้ แต่ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเพียงประมาณหนึ่ง ไม่เช่นนั้นมาตรการของความเข้มข้นมอบหมาย ศปม. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเข้าควบคุม โดยหากทำไม่ถูกต้องตามมาตรการจะต้องถูกดำเนินคดี รวมไปถึงสั่งปิด พักใบอนุญาตในการเปิดอย่างจริงจัง



ขณะที่การดำเนินกิจกรรมกิจการในพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่สีส้ม ยังไม่มีการห้ามออกนอกเคหสถาน ส่วนการทำงานแบบ work from home ขอให้หน่วยงานของรัฐและผู้ประกอบการภาคเอกชนสามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม เว้นพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล สามารถจัดกิจกรรมการรวมกลุ่มโดยให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณาแต่ห้ามจัดเกินกว่า 500 คน ส่วนการบริโภคในร้านอาหารเปิดได้ตามปกติแต่ห้ามบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ซึ่งกิจกรรมภาพรวมส่วนใหญ่ในพื้นที่สีส้มสามารถดำเนินกิจกรรมได้ตามปกติ



ขณะที่การเดินทางเข้าราชอาณาจักร จากการเดินทางเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากการเดินทางในระบบดังกล่าวค่อนข้างมาก จึงมีการชะลอไม่ให้มีการลงทะเบียนเพิ่มเติม ซึ่งมีผู้ที่จะเดินทางจริงเข้ามาไทยประมาณร้อยละ 30 ของผู้ที่ได้รับอนุมัติ Thailand Pass หรือประมาณ 10,000 คน โดยมีการยกเลิกการกำหนดกลุ่มประเทศเสี่ยงที่เข้ามาในราชอาณาจักร 8 ประเทศในทวีปแอฟริกา เนื่องจากการแพร่ระบาดของโอมิครอน ไม่ได้มาจากเพียงแค่ 8 ประเทศในทวีปแอฟริกาเพียงอย่างเดียว



ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 26 จังหวัด คือ 8 จังหวัดนำร่อง และอีกพื้นที่บางส่วนใน 18 จังหวัด ที่มีการปล่อยให้เป็นพื้นที่พิเศษ ให้ดื่มสุราในร้านอาหารได้ แต่ให้ไม่เกิน 21.00 น ส่วนการขอเพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวระยะที่ 3 อีก 5 จังหวัดนั้นจะต้องเลื่อนการเปิดดำเนินการออกไปก่อนและขอประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง


รับชมทางยูทูบที่ :https://youtu.be/jKO2cFDjB1g

คุณอาจสนใจ

Related News