รวบแล้ว 4 ใน 9 นักโทษ หลบหนีจากเรือนจำชั่วคราว มทบ.11 ล่าสุดเหลืออีก 5 ราย ตำรวจเร่งติดตามตัวให้ครบโดยเร็ว



เหตุการณ์ที่ผู้ต้องขังแหกคุกครั้งนี้ มีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุม มุมแรกเป็นภาพที่อยู่ภายในเรือนนอน จะเห็นผู้ต้องขังกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มใช้ใบเลื่อยทำการตัดซี่ลูกกรงห้องขังเรือนจำชั่วคราว มทบ.11 ในขณะที่นักโทษคนอื่นกำลังนอนกันอยู่ เมื่อตัดสำเร็จแล้ว กล้องอีกมุมจะเห็นผู้ต้องขังเหล่านั้นค่อยๆ มุดออกมาจากห้องขัง



หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตามไล่ล่า โดยตรวจสอบเส้นทางหลบหนี จากกล้องวงจรปิดของชาวบ้านบริเวณแยกบ้านร้าง ม.6 ต.บ่อพลับ ห่างจากเรือนจำชั่วคราวมาทางทิศตะวันตก 3 กิโลเมตร พบผู้ต้องขังชาย นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อเดินผ่านมา 5 คน เวลาในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ 07.59 น. นอกจากนี้กล้องวงจรปิดอีกจุดก็จับภาพผู้ต้องขังทั้ง 5 คน เดินผ่านหน้ากล้องอีกครั้ง คราวนี้มีสวมเสื้อแล้ว



จากการตรวจสอบผู้ต้องขังที่หลบหนี เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด และคดีลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังใหม่ ถูกแยกกักตัวตามมาตรการป้องกันโควิด ภายในเรือนจำชั่วคราวทุ่งน้อย (มทบ.11) บริเวณกรงเหล็กหน้าห้องคุมขังพบถูกตัดไป 1 ช่อง ขนาดสูง 30 ซม. กว้าง 19 ซม. และพบใบเลื่อยตัดเหล็กถูกวางทิ้งไว้ใกล้ห้องน้ำ ต่อมาบริเวณกำแพงรั้วของเรือนจำ ซึ่งมีลวดหนามอยู่ด้านน มีเสื้อผ้าของผู้ต้องขังจำนวนหลายชิ้นคลุมลวดหนามไว้



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ 2 ราย คือ นายเอกราช แป้งกลั่น อายุ 18 ปี และนายนัถกร มาตรวังแสง อายุ 24 ปี ที่บริเวณถนนสาธารณะใกล้เคียงโรงเรียนทวารวดี ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม โดยผู้ต้องหาให้การว่า รุ่นพี่นักโทษชวนแหกคุกหนี ซึ่งมีการวางแผนกันประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนลงมือแหกคุก ส่วนการหลบหนีมุ่งหน้ามาตามคันคลองชลประทาน แล้วมาขโมยเสื้อคนงานที่ตากไว้ในแคมป์คนงาน ต.บ่อพลับ จากจุดนี้ได้แยกย้ายกันหลบหนี ไปตามถนนตาก้อง-ดอนตูม คาดว่าแต่ละคนจะมุ่งหน้ากลับบ้าน หรือไม่บ้านญาติที่ ต.บางหลวง อ.บางเลน และอ.ดอนตูม



และล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้เพิ่มอีก 2 ราย คือนายไพฑูรย์ มีคลองแบ่ง และนายวีรเชษฐ์ เทพชู จับได้ที่ริมถนน หมู่ 2 ต.งิ้วราย อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ทำให้ตอนนี้จับกุมกลับมาได้แล้ว 4 คน ยังเหลืออีก 5 คนที่อยู่ระหว่างติดตามไล่ล่าตัว



โดย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ประชุมสรุป และวางแผน ติดตามจับกุมผู้ต้องขังชายร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องเร่งจับกุมกลับมาให้ได้เร็วที่สุด ฝากไปยังประชาชนหากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยให้ช่วยกันแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่



ด้านกองทัพบก ชี้แจงว่า นักโทษทั้ง 9 คน ที่หลบหนีเป็นนักโทษพลเรือนของกรมราชทัณฑ์ โดยกรมราชทัณฑ์ ได้ขอใช้พื้นที่ของเรือนจำมณฑลทหารบกที่ 11 หรือ มทบ.11 ตั้งแต่มีสถานการณ์โควิด-19 เป็นสถานที่กักตัวนักโทษแรกรับเพื่อคัดกรองโรคก่อนจะส่งเข้าควบคุมตัว และมีการแยกส่วนกับผู้ต้องขังทหารไว้ ชัดเจน



ยืนยันว่า การควบคุมตัวนักโทษพลเรือน มีเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ดูแลเองระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้อง กับ มทบ.11 ทั้งนี้ปัจจุบันมีนักโทษพลเรือนที่มากักตัว ทั้งสิ้น 276 คน