หญิงรายหนึ่ง ร้องทีมข่าวช่อง 3 ถูกเพื่อนบ้าน ข่มขู่มาตลอด 2 ปี ล่าสุดถึงกับต่อยลูกชายอายุ 17 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า เชื่ออีกฝ่ายมีผู้มีอิทธิพลคอยช่วยเหลือ

เหตุการณ์ที่นางสาวอัปษร ร้องเรียนมายังทีมข่าวช่อง 3 ระบุว่าถูกชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านชื่อนายขวัญ มาหาเรื่อง และจะชกกับเพื่อนของลูกชายซึ่งใส่เสื้อสีแดง ซึ่งอายุ 17 ปี แม้ว่าประธานชุมชน จะพยายามเข้ามาห้าม แต่ชายคู่กรณีไม่ฟัง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในซอยประชาร่วมใจ 2 เขตจตุจักร

นางสาวอัปษร เปิดใจบอกว่า ถูกนายขวัญ หาเรื่องมานานถึง 2 ปี โดยหลังจากที่นายขวัญพ้นโทษคดียาเสพติด ได้มาทำร้ายร่างกายน้องชายของตน เพราะคิดว่าน้องชายของตนแอบคบหากับภรรยาของนายขวัญ ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าน้องชายของตนสนิทสนมกับภรรยาของนายขวัญ เพราะทั้งคู่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน และขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างวินเดียวกัน โดยพฤติกรรมของนายขวัญ เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้านของตน ก็จะตะโกนด่า และพูดจาท้าทาย จนทำให้ทุกคนในบ้านหวาดกลัว

จนวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนอยู่หน้าบ้านดูลูกชายอายุ 17 ปี ล้างมอเตอร์ไซด์ นายขวัญก็มาด่าและหาเรื่อง และจะเข้ามาทำร้ายตนกับแม่ ทำให้ลูกชายและน้องชายของตนเข้ามาช่วยจนเกิดการต่อสู้กัน จากนั้นตนได้เรียกตำรวจ สน.ประชาชื่น มาระงับเหตุ แต่นายขวัญกลับไม่กลัวและยังพูดข่มขู่ ตนจึงไปแจ้งความ และนำประธานชุมชนซึ่งเห็นเหตุการณ์ไปเป็นพยาน

เมื่อให้ปากคำเสร็จ ลูกชายของตนได้มาส่งประธานชุมชนที่บ้าน แต่กลับถูกนายขวัญชกเข้าที่ศีรษะ เพราะไม่พอใจที่ตนเอาเรื่อง และนายขวัญยังถือไม้จะมาทำร้ายลูกชายตนอีก

ยอมรับตอนนี้ทุกคนในครอบครัวกลัวนายขวัญมาก โดยเฉพาะลูกชาย ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 และเป็นนักดนตรีของโรงเรียน ถึงขนาดต้องหนีไปนอนบ้านญาติ ทั้งนี้ตนเคยเห็นนายขวัญถ่ายรูปตอนพกปืนลงในเฟซบุ๊ก เชื่อว่านายขวัญน่าจะมีผู้มีอิทธิพลคอยช่วยเหลือ เพราะคดีทำร้ายร่างกายน้องชายตนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และคดีที่ต่อยลูกชายตนล่าสุด จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

ขณะที่นายขวัญ ยอมรับว่ามีปัญหากับคู่กรณีจริงแต่ไม่ได้มาจากเรื่องหึงหวงภรรยา อีกทั้งตั้งแต่บ้านคู่กรณีได้เป็นกรรมการชุมชนก็มาเข้มงวดกับบ้านตน จนทำให้มีปัญหามากขึ้น ส่วนวันที่มีเรื่องกับลูกชายคู่กรณี เป็นการทะเลาะวิวาทกันทั้ง 2 ฝ่าย และตนก็ถูกลูกชายคู่กรณีกับพวกรุมทำร้ายจนบาดเจ็บ

หลังเกิดเรื่อง ได้ไปไกล่เกลี่ยที่โรงพักและตนก็ไม่ได้ไปหาเรื่องคู่กรณีอีก ส่วนปืนที่ตนพกติดตัวเป็นปืนบีบีกัน เอาไว้ยิงแมว และก็ไม่ได้มีผู้มีอิทธิพลช่วยเหลืออย่างที่อีกฝ่ายกล่าวหา

ทั้งนี้เมื่อนางสาวอัปษร รู้ว่านายขวัญ บอกว่าเลิกหาเรื่องครอบครัวของตนตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน จึงนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ในวันที่ 1 ธันวาคม ซึ่งจะได้ยินเสียงนายขวัญตะโกนด่าน้องชายตน เพื่อยืนยันว่านายขวัญยังไม่หยุดหาเรื่องอย่างที่พูด