องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนหลายประเทศอย่าแตกตื่นกับเชื้อโควิด "โอไมครอน" ขอให้ทุกประเทศเตรียมพร้อมมาตรการรับมือเหมือนที่เคยทำมา โดยเฉพาะเรื่องวัคซีนและระบบสาธารณสุข แม้เชื้อโรคจะระบาดไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลกในขณะนี้

โซเมีย สวามีนาตัน (Soumya Swaminathan) หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า แม้ว่าโควิดโอไมครอน มีแนวโน้มว่า จะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว แต่การรับมือที่ถูกต้องและเหมาะสมเท่านั้นจะแก้ปัญหาได้ ไม่ใช่การตื่นตระหนก เพราะวันนี้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ต่างไปจากเดิม ต่างไปจากเมื่อต้นปี 2020

ตอนนี้เรามีเครื่องมือ และเรารู้วิธีรับมือ เรารู้แล้วว่า มาตรการอะไรที่เราใช้ได้ผล และนี่คือสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะเกิดโควิดกลายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ เราผ่านการรับมือกับโควิดกลายพันธุ์มาหลายตัวแล้ว ซึ่งอนามัยโลกเชื่อว่า พวกเราจะรับมือได้ดีมากกว่าเดิม

โดยขณะนี้ขอให้ประเทศต่างๆ เตรียมพร้อมระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไว้ต่อสู้กับโควิด "โอไมครอน"

ปัจจุบันนี้พบผู้ติดเชื้อ "โอไมครอน" เกือบ 40 ประเทศทั่วโลกแล้ว โดยสหรัฐฯ ตอนนี้ก็พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีก 6 รัฐ

เดิมพบที่รัฐแคลิฟอร์เนีย มินเนโซต้า โคโลราโด้ ฮาวาย ล่าสุดพบที่นิว เจอร์ซี่, แมรี่แลนด์, มิสซูรี่, เนบราสก้า, เพนซิลเวเนียและยูทาห์ ซึ่งการติดเชื้อในสหรัฐฯ พบว่า บางรายติดเชื้อในชุมชน เนื่องจากไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ

ขณะที่นอร์เวย์ เมื่อวานนี้สาธารณสุขออกมาเปิดเผยว่า จากกรณีงานเลี้ยงฉลองเทศกาลคริสต์มาส ที่ร้านอาหารในกรุงออสโล่ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่พบผู้ติดเชื้อโควิดมากกว่า 50 คน และหนึ่งในนั้นติดเชื้อโอไมครอน มีประวัติเพิ่งเดินทางมาจากแอฟริกาใต้ ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มอีก 12 คนแล้ว นับเป็นซูเปอร์ สเปดเดอร์แรกของโอไมครอน ที่เกิดขึ้นในนอร์เวย์

ส่วนที่แอฟริกาใต้ เมื่อวานนี้รัฐมนตรีสาธารณสุขออกมาบอกว่า แอฟริกาใต้กำลังเข้าสู่การระบาดระลอก 4 โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนแล้วใน 7 จังหวัด จากทั้งหมด 9 จังหวัดทั่วประเทศ

ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา แอฟริกาใต้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว เมื่อวานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากถึง 1 หมื่น 6 พัน 55 คน จากที่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ 4 พัน 373 คน