สุดสลดแม่ป่วยซึมเศร้า ขับรถจอดกลางสะพานข้ามคลองกระโดดลงน้ำปลิดชีพตัวเอง ตำรวจทางหลวงออกตรวจเส้นทางเจอรถจอดผิดปกติ เข้าตรวจสอบเห็นเด็กหญิงวัย 3 ขวบ นอนหลับในรถตามลำพัง รีบเข้าช่วยเหลือ

เหตุเกิดกลางสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ถนนมอเตอร์เวย์ เขตอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ โดยเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวงออกตรวจเส้นทาง เห็นรถเก๋งฟอร์ดเฟียสต้า สีบรอนซ์ฟ้า จอดอยู่กลางสะพานสภาพเปิดไฟกระพริบ จึงเข้าตรวจสอบ พบว่าเครื่องยนต์ยังติดอยู่ ลดกระจกรถลงให้อากาศถ่ายเท ภายในพบเด็กหญิงวัย 3 ขวบ นอนกอดตุ๊กตาหลับอยู่ที่เบาะผู้โดยสารข้างคนขับ แต่ไม่เจอคนขับ เจอเพียงบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชชา อายุ 34 ปี น่าจะเป็นแม่ของเด็ก

จึงประสานชุดประดาน้ำมาค้น พร้อมแจ้งประสานแจ้งญาติให้มารับตัวเด็กหญิง โดยระหว่างที่เจ้าหน้าเปิดรถจะพาตัวเด็กหญิงส่งให้ยายที่มาถึงจุดเกิดเหตุแล้ว เด็กหญิงตื่นขึ้นมาไม่เห็นแม่ ก็ร้องเรียกหา "แม่จ๋าๆ" สร้างความสะเทือนใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ต้องปลอบและหานมให้เด็กดื่ม แล้วอุ้มพาข้ามรั้วกั้นของถนนมอเตอร์เวย์ไปส่งยายที่มารออยู่นอกรั้ว

เมื่อสอบถามคนที่ตกปลาบริเวณดังกล่าว บอกว่า ประมาณ 5 ทุ่ม เห็นรถคันดังกล่าวมาจอดเปิดไฟกระพริบ นานกว่าครึ่งชั่วโมง เข้าใจว่ารถเสีย แต่สักพักได้ยินเสียงของตกกระทบน้ำ คิดว่าเป็นเสียงปลา กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มากันจำนวนมาก ถ้ารู้ว่ามีคนกระโดดน้ำ จะรีบลงไปช่วยเหลือ

ด้านยายของเด็ก เผยทั้งน้ำตาว่า พอทราบข่าวจากตำรวจก็รีบเดินทางมาจากบ้านย่านหนองจอก สาเหตุน่าจะมาจากความเครียดกับเรื่องภายในครอบครัว ที่มักมีปัญหากับสามีชาวจีน โดยแยกทางกันอยู่ในระยะหนึ่งแล้ว สามีกลับไปอยู่ที่ประเทศจีน ทิ้งให้ลูกสาวเลี้ยงตามลำพังที่คอนโดย่านมีนบุรี ลูกสาวป่วยซึมเศร้ามา 10 ปี และเป็นโรคเครียดสะสม เคยทำร้ายหลานสาวมาแล้วถึง 2 ครั้ง จนต้องรับหลานมาเลี้ยงที่บ้าน

กระทั่งช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่าจะมารับลูก แต่ตนบอกว่าไม่ให้เพราะกลัวหลานถูกทำร้าย แต่ลูกก็ขับรถมาแย่งหลานสาวมาจากอ้อมอกไปตอน 2 ทุ่ม กระทั่งเกิดเหตุร้ายขึ้น อยากเจอลูกสาวอีกครั้ง แต่ขอเจอในภาพดี ๆ โดยเมื่อหลายวันก่อนลูกชายเพิ่งโทรศัพท์มาบอกว่า พี่สาวอาละวาดทำลายข้าวของ ทำให้คาดว่า ที่จบชีวิตตัวเอง เกิดจากอาการของโรคซึมเศร้า

เช้านี้ผู้สื่อข่าวไปที่ใต้สะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไม่มีเจ้าหน้าที่มาค้นหาร่างแล้ว หลังจากยุติการค้นหาไปเมื่อช่วงตี 4 เนื่องจากไม่ทราบตำแหน่งที่กระโดดลงไป จึงต้องรอให้ร่างลอยขึ้นมาเอง

ด้าน น.ส.ชฎาณิศ ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ตอนเกิดเหตุตนไม่รู้เรื่อง ได้ยินแค่เสียงโวยวายตอนตี 1 กระทั่งตอนเช้าลุกขึ้นมาอาบน้ำช่วงตี 5 ได้ยินเสียงเหมือนมีใครร้องไห้เสียงสะอึกสะอื้น จึงเดินออกมาดูแต่ก็ไม่พบใคร จนตอนสาย ๆ ถึงรู้ว่ามีคนมากระโดดน้ำตรงนี้ ก็ตกใจมาก รีบไปทำบุญใส่บาตรให้กับผู้เสียชีวิต ตนอยู่ตรงนี้มา 10 กว่าปี ไม่เคยมีใครมากระโดดน้ำฆ่าตัวตาย มีเพียงอุบัติเหตุแล้วมีคนจมน้ำ

ด้าน ดร.นพ.วรตน์ โชติพิทยสุนนท์ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ช่วงนี้คนมีความเครียดมากขึ้น ญาติหรือคนใกล้ชิด ต้องสังเกตอาการผู้มีภาวะเครียด แสดงอาการทำร้ายตัวเอง เช่น บ่น สั่งเสีย หรือส่งสัญญาณว่าอยากฆ่าตัวตายหรือไม่ ญาติต้องเข้าไปพูดคุยให้กำลังใจ แต่ไม่ใช่แนะนำสั่งสอน เพราะผู้มีภาวะเครียดต้องการคนพูดคุย คนที่ตั้งใจฟังเขา ทำให้รู้สึกว่าโลกมีความหวัง มีคนเห็นคุณค่า

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบสติถิการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 10-15 ต่อปี ทุกคนควรสำรวจตัวเอง คุยกับตัวเองบ่อยๆ ว่าความเครียดส่งผลต่อชีวิต ความสัมพันธ์ หรือการงานหรือไม่ ถ้าพบความผิดปกติต้องหาคนคุย หากิจกรรมผ่อนคลาย พบจิตแพทย์ หรือโทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 ได้ 24 ชั่วโมง