วันนี้เป็นอีกวันที่โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเริ่มทยอยเปิดเรียนแบบออนไซต์ ให้นักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ ท่ามกลางบรรยากาศของนักเรียนที่เฝ้ารอที่จะกลับมาเจอกับเพื่อนๆ หลังไม่ได้พบกันมานานกว่า 4 เดือน โดยยังคงเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวัง และรักษาระยะห่างทางสังคม ล่าสุดมีนักเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90% จากโรงเรียน 109 แห่งทั่วพื้นที่

(15 พ.ย.) บรรยากาศเช้าวันแรกของภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ของนักเรียนมัธยมปุรณาวาสในวันนี้แปลกตาไปมาก เพราะสิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำก่อนได้เข้าทักทายกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียน คือ การเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ด้วยชุดตรวจ ATK เป็นลำดับแรก จากนั้นจึงจะผ่านจุดคัดกรองเข้าโรงเรียนได้

นักเรียนหลายคนยอมรับว่าดีใจที่ได้กลับมาเจอเพื่อนๆ และได้กลับมาเรียนที่โรงเรียน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ได้สัมผัสมานานหลายเดือน ทำให้พวกเขาคาดหวังถึงสื่อการเรียนการสอนที่ไม่สามารถทำได้ที่บ้าน

การเคารพธงชาติในวันนี้คุณครูจึงต้องทำความเข้าใจถึงมาตรการ SANDBOX Safety zone in school สำหรับการเปิดเรียนแบบ onsite เน้นย้ำเรื่องการรักษาระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แม้ว่านักเรียนจะได้รับวัคซีนแล้วเกินกว่า 95%

และเนื่องจากมาตรการ SANDBOX ยังคงกำหนดให้มีนักเรียนต่อห้องจำกัดไม่เกิน 25 คน ทำให้ต้องแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ครึ่งหนึ่งเรียนออนไซต์ที่โรงเรียน ส่วนอีกครึ่งเรียนออนไลน์จากทางบ้าน และสลับมาโรงเรียนในวันต่อไป

คุณครูวิชาสังคม ยอมรับว่า นั่นทำให้ต้องวางแผนการสอนเพิ่มขึ้น เพื่อให้เหมาะกับผู้เรียน แต่อย่างน้อยก็ทำกิจกรรมที่การเรียนการสอนออนไลน์ทำไม่ได้ สร้างแรงจูงใจในการเรียนให้กับน้องๆ ในวัยนี้

ขณะเดียวกันครู นักเรียน และผู้ปกครอง ยังแสดงความกังวลถึงสถานการณ์การการติดเชื้อ ที่ส่วนใหญ่มักเกิดในชุมชนในละแวกที่อยู่อาศัย ทางกรุงเทพมหานครได้ปรับมาตรการให้บุคลากรและนักเรียนทุกคน ต้องทำแบบประเมินความเสี่ยง Thai safe thai ทุกวัน และจะมีการสุ่มตรวจหาเชื้อผู้มีความเสี่ยงเป็นระยะ

ล่าสุดมีนักเรียนอายุ 12 ปีขึ้นไป ในสังกัดกรุงเทพมหานคร 109 แห่ง ได้รับวัคซีนแล้ว 33,861 คน จาก 37,466 คน คิดเป็น กว่า 90% ขณะที่บุคลากรจำนวน 14,473 คน ได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 96% ซึ่งผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า รอวัคซีนทางเลือก หรือมีโรคประจำตัว

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ที่เปิดเผยครั้งล่าสุด 9 พฤศจิกายน มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วประมาณ 3.2 ล้านคน คิดเป็น 84% ส่วนเข็มที่ 2 ประมาณ 4 แสนคน คิดเป็น 10% จากจำนวนเด็กที่แจ้งความประสงค์ทั้งหมดกว่า 3.8 ล้านคน