ตายายช็อก! บริจาคเงิน 1 ล้านบาท สร้างโบสถ์ใหม่ให้วัด สุดท้ายสร้างไม่ได้ จึงขอเงินคืนพร้อมแบ่ง 5 แสน ไปบูรณะโบสถ์เก่า ที่เหลือเอาไปตระเวนทำบุญที่สุพรรณบุรี สุดท้ายถูกไวยาวัจกรฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท

นางอำไพ และนายนพ จิตรรักมั่น อายุ 79 ปี สองสามีภรรยา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.บางใหญ่ เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายอานนท์ณัฎฐ์ เล็กเนียม อายุ 69 ปี ไวยาวัจกร วัดศรีราษฎร์ ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังถูกนายอานนท์ณัฎฐ์ ฟ้องหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา เรียกร้องค่าเสียหายถึง 5 ล้านบาท

สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ นายอานนท์ณัฎฐ์ ได้มาชักชวนให้ 2 ตายายบริจาคเงินสร้างอุโบสถหลังใหม่ของวัดศรีราษฎร์ ทั้งคู่บริจาคเงินไป 1 ล้านบาท ต่อมากลับไม่มีการสร้างอุโบสถตามที่กล่าวอ้าง เมื่อไปสอบถาม ได้คำตอบว่า ที่ยังก่อสร้างอุโบสถไม่ได้ เพราะติดปัญหาชาวบ้านยังไม่ยอมให้สร้างบนพื้นที่ที่เป็นที่จอดรถ และยังมาเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมบอกว่า จะเก็บเงินบริจาคไว้ก่อน

เมื่อ 2 ตายายเอ่ยปากขอเงินคืน ถูกนายอานนท์ณัฎฐ์ปฏิเสธ อ้างว่า ออกใบอนุโมทนาบัตรให้ไปแล้ว เงินที่บริจาคมาก็ยังอยู่ในบัญชี ไม่ได้นำไปใช้แต่อย่างใด ทั้งคู่จึงต้องไปพึ่งตำรวจให้ช่วยดำเนินการ

กระทั่งวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายอานนท์ณัฎฐ์ พร้อมด้วย นายประหยัด แก้วด้วง ผู้ใหญ่บ้าน ได้นำเงินสด 1 ล้านบาท มาคืนให้กับ 2 ตายาย ที่ สภ.บางใหญ่ และยืนยันต่อหน้าตำรวจและผู้สื่อข่าวด้วยวาจาว่า จะไม่ติดใจเอาความอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แถมยังบอกอีกว่า จะเดินหน้าสร้างอุโบสถต่อ หากไม่มีอุปสรรคใด ๆ

หลังจากได้เงินมา 2 ตายาย ก็นำเงินไปตระเวนทำบุญทอดกฐินตามวัดต่างๆ ที่ จ.สุพรรณบุรี และยังแบ่งเงินอีก 5 แสนบาท ไปบูรณะอุโบสถหลังเก่าของวัดศรีราษฎร์ ทดแทนเรื่องที่สร้างอุโบสถหลังใหม่ไม่ได้

แต่จู่ๆ เมื่อวานนี้ 2 ตายายได้รับหมายศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน ถูกนายอานนท์ณัฎฐ์ พร้อมกับพวกอีก 3 คน ยื่นฟ้องในความผิดฐาน "ละเมิด หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ให้ชดใช้ค่าเสื่อมเสียชื่อเสียง" เป็นเงิน 5 ล้านบาท ศาลนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์วันที่ 24 มกราคม 2565 ทำให้ทั้งคู่ทั้งตกใจและเสียใจมาก ทั้งที่มีจิตใจตั้งมั่นที่จะทำบุญสร้างกุศลในบั้นปลายชีวิต แต่กลับมาถูกฟ้อง

ขณะเดียวกัน นายบุญปลอด ยมยะมาลี อายุ 64 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ได้นำหลักฐานมาช่วยเหลือ 2 ตายาย ซึ่งเป็นคลิปที่นายอานนท์ณัฎฐ์ พูดเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา หลังถูกคัดค้านการสร้างอุโบสถ ก็ได้ประกาศในที่ประชุมว่า ขอยุติการก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ และจะนำเงินคืนกับเจ้าของเงินที่ทำบุญทั้งหมดทุกคน ไปฟังเสียงช่วงนี้

เมื่อ 2 ตายายเห็นว่า ผ่านระยะเวลามานานพอสมควร แต่ยังไม่ได้คืนจึงทวงถาม ก็ถูกปฏิเสธถึง 3 ครั้ง พร้อมบอกว่า ถ้าอยากได้เงินให้ไปแจ้งความ นอกจาก 2 ตายยาย ยังมีคนทำบุญอีกหลายคนที่ยังไม่ได้เงินคืน โดยยังมีเงินบริจาคค้างบัญชีมากกว่า 5 ล้านบาท

ด้าน ทนายโป้ง สำนักทนายคู่ใจ ได้เข้ามาช่วยเหลือ 2 ตายาย เผยว่า จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่เป็นเอกสาร และพยานบุคคล มาต่อสู้คดี เบื้องต้นมีความมั่นใจว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะต่อสู้คดี พิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับคุณตาคุณยายได้

ชมผ่านยูทูบ :  https://youtu.be/cSH-nQTAarY