อาชญากรรม
อัยการสั่งฟ้อง 4 ข้อหาหนัก 'อดีตผกก.โจ้ และพวก'
โดย nicharee_m
15 พ.ย. 2564
125 views
อัยการสั่งฟ้อง อดีตผู้กำกับโจ้กับพวก รวม 7 คน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายและข้อหาอื่นรวม 4 ข้อหา
นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดแถลงข่าวความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ที่ร่วมกับพวกรวม 7 คน ก่อเหตุซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดด้วยวิธีใช้ถุงดำคลุมหัว จนถึงแก่ความตาย
คดีนี้เป็นการเสียชีวิตขณะผู้ตายอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุดในการพิจารณาสำนวนการสอบสวน ซึ่งอัยการได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันที่4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา อัยการสูงสุดได้มีการตรวจสำนวนอย่างรอบคอบแล้ว จึงมีคำสั่งฟ้อง อดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ใน 4 ข้อหา คือ 1.ข้อหาเป็นเจ้าหนักงานร่วมกันปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 2. ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติอย่าใดอย่างหนึ่งในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ 3. ร่วมกันทรมารผู้อื่นโดยทรมาหรือทารุณโหดร้าย และ 4. ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91, 157, 309 วรรคสอง, 289 (5) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
โดยยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รวมทั้งท้ายคำฟ้องของอัยการได้ยื่นขอคัดค้านการประกันตัวจำเลยทั้ง 7 คน เพราะเป็นคดีอุฉกรรจ์ เกรงว่าจำเลยจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ส่วนพยานหลักฐานที่นำมาประกอบสำนวนคดี เพื่อให้ศาลได้พิจารณาใช้นำสืบตามระบบไต่สวนมีด้วยกันทั้งหมด 7 แฟ้ม มั่นใจว่าสำนวนการสอบสวนที่ทำมาอย่างรัดกุมประกอบพยานหลักฐานนั้น จะสามารถให้ศาลพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งหมดได้