‘นายกฯ’ สั่งตำรวจกวดขัน ‘ไรเดอร์’ ขี่รถประมาททำคนใช้รถเดือนร้อน เสี่ยงคุก 3 เดือน

เลือกตั้งและการเมือง

‘นายกฯ’ สั่งตำรวจกวดขัน ‘ไรเดอร์’ ขี่รถประมาททำคนใช้รถเดือนร้อน เสี่ยงคุก 3 เดือน

โดย JitrarutP

10 พ.ย. 2564

386 views

นายกฯ สั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จับมือภาครัฐและธุรกิจเดลิเวอร์รี่ แก้ปัญหาการขี่รถฝ่าฝืนกฎหมาย ทำคนสัญจรเดือดร้อน เสี่ยงคุก 3 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท


วันนี้ (10 พ.ย. 64) เวลา 09.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) ,พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางสาวณัฎกร โอภาสทิพากร นักวิชาการขนส่งชำนาญการ กรมการขนส่งทางบก นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผอ.สำนักเทศกิจ ร่วมแถลงผลการประชุมการบูรณาการความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายของหน่วยงานภาคีเครือข่ายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน อันเกิดจากการกระทำผิดของผู้ใช้รถใช้ถนน


พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เชิญหน่วยงานราชการ บริษัทที่ให้บริการขนส่งด้านอาหารและสิ่งของ เครือข่ายด้านความปลอดภัยบนท้องถนน รวมทั้งสื่อในด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุประกอบด้วย ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล บริษัท แกร็บ ประเทศไทย ,นายกลวัชร เทอดมิตรกรานต์ บริษัท ฟู๊ดแพนด้า(ประเทศไทย) จำกัด, นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลน์แมน วงใน จำกัด , นายสีหนาท ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (โรบินฮู้ด) , นายรวีโชติ เศรษฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลาลามูฟ ประเทศไทย มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดมติการบูรณาการความร่วมมือกันโดยแบ่งเป็น 3 ประเด็น


1. มาตรการบังคับใช้กฎหมาย โดย ตร.จะบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มรถ จยย.ที่กระทำผิด ในพื้นที่เขตเมือง เขตชุมชน หรือเขตสถานศึกษา อย่างเข้มงวด ในข้อหา ขับรถย้อนศร (ปรับไม่เกิน 500 บาท) ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร (ปรับไม่เกิน 1,000 บาท) ขับรถรถจักรยานยนต์บนทางเท้า (ปรับตาม พ.ร.บ.จราจรฯ 400 -1,000 บาท และปรับตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ ไม่เกิน 5,000 บาท) รวมถึงการขับรถปาดซ้ายปาดขวา ซึ่งเป็นการขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว (ปรับ 400-1,000 บาท)


ทั้งนี้ นอกจากการออกใบสั่งตามปกติแล้ว หากพฤติการณ์การกระทำผิดข้างต้นดังกล่าวมีลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หรือประชาชนทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหา “ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000 – 10,000 บาท โดยจะต้องมีการสอบสวนดำเนินคดีและยื่นฟ้องผู้กระทำผิดต่อศาล ยึดรถใช้ในการกระทำผิดเป็นของกลางในคดีและมีคำร้องขอให้ศาลริบเป็นของแผ่นดิน


โดยจะใช้วิธีการตรวจจับการกระทำผิด 5 วิธี


- ตรวจพบการกระทำผิดซึ่งหน้าในขณะอำนวยความสะดวกการจราจร


- การใช้ชุดสายตรวจจราจรออกตรวจในพื้นที่จุดเสี่ยงที่มีฝ่าฝืนกฎหมายหรือจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง


- การตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร


- การใช้กล้องตรวจจับความผิด


- การรับข้อมูลจากประชาชน (คลิปกล้องหน้ารถหรือคลิปจากมือถือ) ที่บันทึกเหตุการณ์การกระทำผิดดังกล่าว


2. ความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายในการกำกับติดตามผู้กระทำผิดกฎหมายตามข้อ 1


(1) กทม. ร่วมบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายเรื่องการขับรถบนทางเท้าซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535


(2) กรมการขนส่งทางบก ร่วมบูรณาการกำกับดูแล การจัดตั้งวินรถจักรยานยนต์สาธารณะ และการขอจดทะเบียนขึ้นทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ หากกระทำความผิดตามหลักเกณฑ์ของกรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาต หรือพักใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราว


(3) บริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าและอาหารเดลิเวอรี ร่วมบูรณาการใช้มาตรการองค์กร กำกับดูแลผู้ขับขี่ในสังกัดให้ปฏิบัติตามกฎหมาย โดย ตร.ประสานข้อมูลประวัติการกระทำผิด ข้อมูลการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้บริษัทคัดกรองผู้ขับขี่ที่มีคุณภาพและปฏิบัติตามกฎจราจร และบริษัทฯ จะเพิ่มหมายเลขพนักงานหลังเสื้อบริษัท 3. สร้างช่องทางให้ประชาชน ส่งคลิปกล้องหน้ารถ ที่บันทึกภาพเหตุการณ์การกระทำผิดกฎหมายจราจร และมีพฤติการณ์การขับขี่ที่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อบุคคลอื่น




เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามดำเนินคดีกับผู้ขับขี่มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยดำเนินการร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ สวพ.91 จส.100 และภาคีเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วมเป็น “อาสาตาจราจร” หากพบการกระทำผิดและมีคลิปบันทึกเหตุการณ์สามารถส่งคลิปมาได้ในช่องทางที่กำหนด


ได้แก่ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., จส.100,  สวพ.91,  มูลนิธิเมาไม่ขับ, เพจอาสาตาจราจร โดยคณะทำงาน ศจร.ตร. จะตรวจสอบข้อมูลจากคลิปของประชาชน หากพบว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย จะส่งข้อมูลไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ นอกจากนี้มูลนิธิเมาไม่ขับ จะมีการมอบรางวัลให้กับเจ้าของคลิป ทุกเดือนๆ ละ 10 รางวัล


รางวัลที่ 1 : 20,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร


รางวัลที่ 2 : 10,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร


รางวัลที่ 3 : 6,000 บาทพร้อมเกียรติบัตร และ รางวัลชมเชย 7 รางวัลๆ ละ 2,000 บาท


พร้อมเกียรติบัตร (รวม 14,000 บาท) รวมเป็นเงิน 50,000 บาท โดย ตร. จะเริ่มต้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะเริ่มใช้อย่างเข้มข้น ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2564 เพื่อมุ่งหมายในการสร้างวินัยการขับขี่ ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ให้ประชาชนสามารถใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย


โดยมีตัวอย่างการดำเนินคดีตามมาตรการดังกล่าวจากกล้องหน้ารถที่บันทึกการกระทำผิดของรถจักรยานยนต์ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงในพื้นที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวผู้ขับขี่ที่กระทำผิดมาแจ้งข้อหา "ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร" และ "ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ" ซึ่งจะนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือต่อไป


ผอ.ศจร.ตร. กล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาการทำผิดกฎหมายจราจรเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยายนต์ เช่น การฝ่าสัญญานไฟแดง การขับรถย้อนศร การแซงในที่คับขัน เป็นต้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยสั่งให้ ตร. เร่งจัดระเบียบการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้กำชับทุกหน่วยงานในสังกัดและภาคีเครือข่ายร่วมกันดำเนินการตามมติที่ประชุมเพื่อเร่งรัดให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน



คุณอาจสนใจ

Related News