จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวก อดีตชุดปราบปรามยาเสพติด จ.นครสวรรค์ ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด อ้างเพื่อเค้นข้อมูล จนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีภาพวงจรปิดขณะก่อเหตุเป็นหลักฐาน

ความคืบหน้าคดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร. แถลงว่า คดีนี้ตำรวจสรุปสำนวน และจะส่งสำนวนสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คน ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ย.)

โดยคดีนี้มี น.ส.จันทร์จิรา ธนะพัฒน์ แม่ของนายมาวิน และ พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สส.ภ.จว. นครสวรรค์ เป็นผู้กล่าวหา มีผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล / พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง / ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค / ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา / ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว / ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว

คดีนี้สอบสวนพยาน 35 ปาก / พยานเอกสาร 14 รายการ / วัตถุพยาน 7 รายการ คณะพนักงานสอบสวน ลงความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ฐานความผิด

-เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ

-เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบฯ

-ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

-ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย

นอกจากนี้ยังมีการ อายัดทรัย์ของผกก.โจ้ จำนวน 131 ล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดซึ่งเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดแบ่งเป็น -คฤหาสน์ ย่านบางชัน มูลค่า 57 ล้านบาท / รถ 24 คัน ประเมินราคา 70 ล้านบาท / คอนโดมิเนียม 1 ยูนิต 1.5 ล้านบาท /ปืน 18 กระบอก 720,000 บาท รวม 131 ล้านบาท ขณะที่อดีตผกก.โจ้มีหนี้สิน 76.63 ล้านบาท ทำให้เหลือทรัพย์สิน ประมาณ 53.4 ล้านบาท

ส่วนจะมีการยึดอายัดทรัพย์สินหรือไม่ ต้องพิจารณาว่า เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ โดยส่วนนี้ ยังต้องรอการตรวจสอบเอกสารร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งกรมศุลกากร กรมการขนส่งทางบก อีกระยะหนึ่ง

“ยอมรับว่า ช่วงหลัง อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ ทำให้การตรวจสอบทรัพย์สิน ทำได้ล่าช้า จึงต้องมีการหารือร่วมกับกรมราชทัณฑ์เพิ่มเติม”

ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ เผยถึงการพิจารณาลงโทษทางวินัยอดีตผกก.โจ้และพวก ว่า ในการพิจารณาโทษทางวินัยร้ายแรงว่าจะปลดออก หรือ ไล่ออก นั้นยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา

ทางด้านนายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของผกก.โจ้ เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า หากมีการส่งฟ้องแล้ว ก็รอว่าอัยการจะมีคำสั่งฟ้องเมื่อใด ก็จะยื่นขอประกัน ผกก.โจ้ โดยเตรียมหลักทรัพย์ไว้มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งข้อหาที่ตำรวจแจ้งมา ทั้ง 4 ข้อหานั้น ทางผกก.โจ้ ปฏิเสธทุกข้อหา

โดยยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่า โดยพฤติกรรมของผกก.โจ้ ไม่มีแรงชักจูงใจให้ก่อเหตุ ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว หรือโกรธแค้นกับผู้ต้องหา แต่เป็นการทำงานในการปฏิบัติหน้าที่ ขยายผลเรื่องยาเสพติด เพื่อขยายผลหาของกลางและผู้ร่วมขบวนการ ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าผู้ต้องหา

สำหรับผู้กำกับโจ้นั้น ตั้งแต่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้ว ล่าสุดก็มีการปรับตัวได้ ซึ่งไม่ได้มีความเครียดหรือวิตกใดๆ โดยเหตุผลที่จะขอประกันตัวนั้น ผกก.โจ้ เนื่องจากมีคดีเกี่ยวข้องหลายคดี และมีข้อมูลมาก จึงมีความจำเป็นที่ต้องออกมาดำเนินการต่อสู้ ตามกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Tn-nO5TOcfM