กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ครั้งที่ 2/2564

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฯ ครั้งที่ 2/2564

โดย panwilai_c

26 ต.ค. 2564

32 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 2/2564


วันนี้ เวลา 17 นาฬิกา 21 นาที สมเด็จพระกนิษฐาราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาส ให้ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำคณะผู้บริจาคเงิน และสนับสนุนกิจการของมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน


ต่อจากนั้นทรงเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ครั้งที่ 2/2564 เพื่อพิจารณาตัดสินบุคคลที่สมควรได้รับพระราช ทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ 30 รวมทั้งพิจารณาตัดสินผู้สมควรได้รับทุน โครงการเยาวชนรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นปีที่ 13 และพิจารณาการจัดประชุมวิชาการนานาชาติ ประจำปีรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2565 ในหัวข้อ "โลกที่ปรารถนา:ขับเคลื่อนสู่สังคมแห่งสุขภาวะ เป็นธรรมและยั่งยืน" ระหว่างวันที่ 26 ถึง 29 มกราคม 2565 ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชทานรางวัสสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2564 ในวันที่ 27 มกราคม 2565 ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท


มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งขึ้นเมื่อปี 2534 เพื่อถวายเป็นพระราชานุสรณ์แด่ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย พระบิดาแห่งการสาธารณสุขของไทย และพระบิดาแห่งการอุดมศึกษาไทย ในโอกาสเฉลิมฉลองครบ 100 ปี วันพระราชสมภพ 1 มกราคม 2535 พิจารณามอบรางวัลแก่บุคคล หรือองค์กรทั่วโลก ที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ ทั้งทางด้านการแพทย์ และสาธารณสุข โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา

Related News