ตำรวจเร่งตามล่าตัวกลุ่มวัยรุ่นยกพวกรุมทำร้ายวัยรุ่นคู่อริเจ็บ 3 คน ที่หน้าหอพักแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเจ็บสาหัส ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 1 คน พร้อมเตรียมนำตัวผู้บาดเจ็บมาให้ปากคำ

จากกรณีที่วัยรุ่นชาย 2 คน เดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์ แล้วเจอกลุ่มคู่อริบุกมาทำร้าย ไล่ตีจนเข้าไปถึงด้านใน เมื่อช่วงเวลา 11.53 นาที วันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นผ่านไปราว 1 ชั่วโมง ประมาณ 12.56 นาที กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิม ก็ย้อนกลับมาทำร้ายร่างกายวัยรุ่นที่อพาร์ตเมนต์นี้อีก ครั้งนี้มีการทุบทำลายกระจก และบุกเข้าไปข้างใน เหตุเกิดที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดพร้าว 132

ทีมข่าวสอบถามนาย รพีพัทธ์ หลานชายของเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ เล่าว่า วัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่มนี้ พักอยู่ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้ทั้งคู่ โดยก่อนหน้านี้วัยรุ่นทั้ง 2 กลุ่ม มีปัญหากันคือไปมองหน้ากันที่ร้านอาหาร จนฝั่งหนึ่งเกิดความไม่พอใจ ก็เลยกลับมาเอาอาวุธที่ห้อง แล้วไปหลบอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อรอคู่กรณีลงมาจากห้อง พอคู่กรณีลงมาก็เอาไม้เบสบอลเข้ามารุมฟาดแล้ววิ่งหนีไป ซึ่งเจ้าของตึกได้ตามไปล็อกตัว 1 ในฝั่งที่บุกมาไว้เพื่อสอบถามว่ามีปัญหาอะไรกัน

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ฝั่งคนที่ถูกทำร้ายกำลังช่วยกันเก็บกวาดข้าวของที่เสียหายอยู่ใต้ตึก จู่ๆ ฝั่งวัยรุ่นก็พาพวกนับสิบคน ขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาพร้อมอาวุธมีด ไม้เบสบอล มารุมทำร้ายคู่กรณีอีกครั้ง โดยมีการเอากระถางต้นไม้ทุ่มใส่ จนกระจกประตูแตก ก่อนจะขับขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนีไป และไม่ได้กลับเข้ามาที่ห้องอีกเลย

ฝั่งของคนที่ถูกทำร้ายมาอยู่ได้ประมาณปีกว่าแล้ว ก็ไม่เคยมีปัญหา หรือมีเรื่องราวทะเลาะกับใคร แต่ฝั่งของคนที่ยกพวกมารุม เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ไม่ถึงสัปดาห์ ซึ่งคนแถวนี้บอกว่า กลุ่มนี้เป็นเด็กช่างจากภาคใต้ ไปอยู่ที่ไหนก็มีแต่เรื่อง ล่าสุดไปแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าวแล้ว

มีรายงานจากชุดสืบสวน ยืนยันว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเหตุการณ์ เพื่อตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบปากคำถึงชนวนเหตุที่เกิดขึ้น และหากพบว่าใครทำผิดอย่างไร ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว 1 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

ส่วนผู้บาดเจ็บ มีทั้งหมด 3 คน ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว 2 คน และตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำ ส่วนคนเจ็บที่เหลืออีก 1 คนยังพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากพบว่าต้องผ่าตัดบริเวณหัวเข่า และ สะบ้า

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าก่อนหน้านี้ หนึ่งในผู้ก่อเหตุตำรวจได้ควบคุมตัวแล้วปล่อยตัวไปนั้น ไม่น่าจะเป็นความจริงเพราะจากการสอบถามชุดทำงานต่างยืนยันว่าไม่เคยมีการควบคุมตัวหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเลยแม้แต่คนเดียว