วันที่ 7 ตุลาคม 2564 กลายเป็นกระแสดราม่าบนโลกโซเชียล เมื่อสาวรายหนึ่งได้โพสต์ขายนมโรงเรียน ทำให้กลายเป็นกระแส ถามนมโรงเรียนขายได้เหรอ มันผิดกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ นางสาวธุวดารา สุขมา อายุ 31 ปี ชาว ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก และเป็นผู้โพสต์ขายนมโรงเรียน

โดยทางนางสาวธุวดารา แจงนมที่ตนเองโพสต์ขายนั้น ตนเอง ซื้อมาจากเพจหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยสั่งซื้อมาให้ลูกกินแล้ว แต่ครั้งนี้ตนเองสั่งซื้อนมโรงเรียน มาจำนวน 4 ลัง ตกลังละ 240 บาท โดยมีการสั่งแบบเก็บเงินปลายทาง แต่พอดีทางโรงเรียนได้ติดต่อให้ตนเองไปเอานมที่โรงเรียนแจก

เมื่อตนเองไปรับนมมาแล้วเห็นว่ามีจำนวนมาก ลูกคงจะกินไม่ทัน จึงได้ทำการประกาศขายนมโรงเรียนที่ตนเองสั่งซื้อมาจากเพจ ซึ่งไม่เกี่ยวกับนมโรงเรียนที่แจกมา เพราะตนเองก็รู้ว่าซื้อขายไม่ได้ แต่ที่กระแสโซเชียล อยู่ๆ มาต่อว่าตนโดยไม่ถามเหตุผลนั้น ตนเองรับไม่ได้และอาจต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย

ด้านเขตผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา เพชรบูรณ์ เขต 3 แนะต้องไปสอบถามกับสหกรณ์โคนมจังหวัดนครราชสีมา ว่าการจำหน่ายนมโรงเรียนที่ข้างกล่องมีข้อความห้ามซื้อขาย มีเงื่อนไขข้อตกลงอย่างไรบ้างกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดำเนินการจัดซื้อ ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงเรียนจะมีหน้าที่แค่ตรวจนับให้ครบตามจำนวนเท่านั้น

จากการสอบถาม นายรพีพงศ์ วรวัฒน์ธนากุล ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เพชรบูรณ์ เขต 3 กล่าวว่า จากกรณีนมโรงเรียนนั้น เป็นผลิตภัณฑ์รัฐบาลของรัฐบาลที่มีนโยบาย ได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ดูแลสุขภาพของนั้นเรียนในช่วงวัยเรียน โดยได้ทำการตกลงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้จัดซื้อจัดหา

ส่วนทางโรงเรียนนั้นเป็นผู้ตรวจรับ ตรวจนับว่ามีกี่กล่องรับมาเท่าไหร่ ซึ่งในสถานการณ์ปกตินักเรียนนั้นจะดื่มนมที่โรงเรียนเป็นประจำ แต่ในช่วงนี้เป็นสถานการณ์โควิด ทางโรงเรียนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเรียนออนไลน์ และกิจกรรมต่างๆ ต้องอยู่ที่บ้าน ทางโรงเรียนจึงประสานงานผู้ปกครองและนักเรียนให้มารับนมโรงเรียนไปทานที่บ้าน

ส่วนประเด็นของทางโซลเชียลนั้น คงต้องไปดูว่าหน่วยที่ผลิตนมโรงเรียนที่เป็นคู่สัญญากับท้องถิ่นนั้นๆ ว่าจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ได้หรือไม่ แต่ในส่วนที่ผู้ปกครองรับนมโรงเรียนไปแต่ไม่ให้นักเรียนดื่ม กลับนำนมไปขายนั้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเจตนาคือจะดูแลสุขภาพเด็กๆ

แต่ถ้าหากผู้ปกครองนั้นมีฐานะจะไปหาซื้อนมโรงเรียนจากหน่วยผลิต อันนั้นถือว่าไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้จะประสานไปยังหน่วยผลิต ท้องถิ่น กับคู่สัญญาว่ามีการขายอย่างไร แต่ถ้าหากว่าซื้อมาจากหน่วยผลิต แล้วยังได้รับแจกจากโรงเรียนมาหากจะนำส่วนที่ซื้อมาแล้วไปขายก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ