เปิดพิรุธคดีอดีต ผกก.โจ้ เคยจับรถหรู 410 คัน บางคันยึดก่อนที่รถจะเข้ามาถึงไทย

สังคม

เปิดพิรุธคดีอดีต ผกก.โจ้ เคยจับรถหรู 410 คัน บางคันยึดก่อนที่รถจะเข้ามาถึงไทย

โดย thichaphat_d

5 ต.ค. 2564

308 views

เปิดพิรุธคดีอดีต ผกก.โจ้ คดีจับบรถหรู 410 คัน บางคันยึดก่อนที่รถจะเข้ามาถึงไทย


พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง จตช. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผกก.โจ้ และพวกรวม 7 คน ซ้อมทรมานผู้ต้องคดียาเสพติดจนเสียชีวิต


โดยพล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า คดีของ ผกก.โจ้ ตอนนี้มีด้วยกันทั้งหมด 4 คดี ถึงตอนนี้เรามีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดได้แน่นอน โดยเฉพาะคดีซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนถึงแก่ชีวิต ขณะนี้คืบหน้าไป 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว คาดว่าไม่น่าเกินเดือน พ.ย. น่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาได้ ส่วนเรื่องคดีสินบนนำจับรถหรู ตรวจสอบพบว่า ผกก.โจ้ เกี่ยวข้องกับจับกุมรถหลบเลี่ยงเสียภาษีจำนวน 410 คัน เบื้องต้นพบข้อมูลเป็นรถแจ้งหายไว้ที่ต่างประเทศอย่าง มาเลเซีย และ สิงคโปร์ รวมจำนวน 270 คัน แบ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายก่อนตรวจยึด 101 คัน และ รถที่แจ้งหายหลังถูกตรวจยึด 169 คัน ส่วนรถที่เหลือ 140 คัน ยังไม่พบแหล่งที่มา เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด


ระบุหลังการประชุมชุดสืบสวนมอบสวนคดีร่วมกันฟอกเงินของพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังจากที่ถูกดำเนินคดีที่ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดียาเสพติดภายในห้องสอบสวน และมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์


หลังจากนั้นได้มีการขยายผลไปตรวจสอบในบ้านพัก และพบมีรถยนต์หรูอยู่จำนวนมาก จนนำไปสู่การตรวจสอบถึงการครอบครอง และยังพบว่ามีรถยนต์ 410 คัน ที่พันตำรวจเอกธิติสรรค์ เกี่ยวข้องกับการยึดอายัดในขณะที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เบื้องต้นพบว่ามีแจ้งหายไว้ในต่างประเทศ 270 คัน แบ่งเป็นแจ้งหายก่อนการถูกยึดอายัด 101 คัน และหลังการถูกยึดอายัด 169 คัน ส่วนที่เหลือยังไม่พบข้อมูล และยังพบว่ามีตำรวจอีกจำนวนหนึ่งร่วมในการจับกุมรถยนต์หรู


“รถหรู 410 คัน ที่เกี่ยวข้องกับ ผกก.โจ้ ผิดกฎหมายแน่นอน เพราะวิธีการจับกุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการยึดก่อนที่รถจะผ่านเข้าประเทศ และยังพบพิรุธอีกหลายประเด็น รถเหล่านี้ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติเป็นคนนำเข้ามา ก่อนบุคคลดังกล่าวจะเดินทางกลับด้วยสายการบิน ในส่วนนี้ได้มอบหมายให้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เร่งตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดว่าบุคคลดังกล่าวนำรถเข้ามาในประเทศแล้วกี่คัน เป็นรถคันใดบ้างเพื่อให้หลักฐานมีความแน่นหนา จึงมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิด ผกก.โจ้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แน่นอน เพียงแต่ขอเวลารวบรวมข้อมูลจากกรมศุลกากรและสถาบันการเงินก่อน” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าว


สำหรับรถยนต์ทั้งหมดยืนยันว่า เป็นการจับกุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บางคันยึดมาก่อนที่รถจะเข้ามาถึงประเทศไทย และส่วนใหญ่เป็นรถที่มาจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับตำรวจและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ และเตรียมส่งสำนวนคดีให้กับพนักงานอัยการได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ พลตำรวจเอกสุชาติ ยังระบุถึงผู้ที่ทำการปล่อยคลิปวิดีโอกล้องวงจรปิดในขณะที่มีการทำร้ายผู้ต้องหา จากการสอบสวนพบว่ามีการโหลดคลิปวงจรปิดลงในโทรศัพท์มือถือแล้วส่งต่อกันในกลุ่มของตำรวจด้วยกันก่อนที่จะหลุดไปสู่สาธารณะ แต่ยืนยันว่าผู้ที่ปล่อยคลิปไม่มีความผิด


พล.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรถทั้ง 410 คัน จากทางศุลกากรค่อนข้างมาก ตั้งแต่การเข้ามาของรถ ใครเป็นคนนำเข้ามา ใครเป็นนอมินี และใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ทางตำรวจมีข้อมูลหมด แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรอบเวลาในการสรุปเรื่องนี้ยังไม่สามารถกำหนดให้แน่ชัดได้ เนื่องจากรายละเอียดค่อนข้างมากต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/_pe1dBIDz-I


คุณอาจสนใจ

Related News