ปทุมธานีอ่วม หลังน้ำล้นคลองทะลักเข้าบ้าน - เร่งสร้างคันดินเสริม อุดย่านซื่อหลังเกิดน้ำผุด

สังคม

ปทุมธานีอ่วม หลังน้ำล้นคลองทะลักเข้าบ้าน - เร่งสร้างคันดินเสริม อุดย่านซื่อหลังเกิดน้ำผุด

โดย weerawit_c

2 ต.ค. 2564

802 views

เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (1 ต.ค.) ที่บริเวณหมู่2 คลอง 13 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ นายจรูญศักดิ์ สิงหเดช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งจาก นายสุริยา ธรรมธารา สจ. เขต อำเภอหนองเสือ ว่ามีน้ำล้นทะลักบริเวณหมู่ 2 คอลง 13 อำเภอหนองเสือ เข้าบ้านเรือนประชาชนจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมสั่งการช่วยเหลือ


เนื่องจากกรมชลประทาน ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน และลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งคาดว่ามีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที อีกทั้งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพความปลอดภัยและความมั่นคงของเขื่อน จึงจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำที่ผันเข้าคลอง 13 กระทบกับประชาชนเกษตรกรเนื่องจากน้ำได้เอ่อล่นผิวจราจรเข้าพื้นที่เกษตร


หลังจากเหตุการณ์เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. วันที่ 1 ต.ค. ที่บริเวณ ริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าแร่ หมู่ที่ 4 ตำบลย่านซื่อ อำเภอเมือง ได้เกิดมวลน้ำผุดทะลุใต้แนวเขื่อน และตามรอยแตกรอยแยกของสันเขื่อนที่เกิดการชำรุด ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง ได้เร่งนำเครื่องจักรกล รถแม๊คโคร จำนวน 7 คัน ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้า โดยมีการตักหน้าดิน ทำเสริมเป็นแนวคันดินโดยรอบ เพื่อกั้นน้ำไม่ไห้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน ตำบลย่านซื่อ หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 พร้อมทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อสูบน้ำออกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่เพียงแต่เจ้าหน้าที่ ยังมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมมือร่วมใจกัน ช่วยขนย้ายอุปกรณ์ ต่าง ๆ และช่วยกันกรอกทราย เพื่อใช้ในการอุดเสริมแนวที่เป็นจุดเปราะบาง


และอีกจุดหนึ่ง เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. เกิดเหตุมีมวลน้ำมุดดินใต้แนวเขื่อนและจุดเชื่อมต่อ จุดชำรุดหลายจุด เจ้าหน้าที่เทศบาลไชโย ประชาสัมพันธ์ออกเสียงตามสาย แจ้งให้เร่งขนย้ายทรัพย์สินไว้ในที่สูง และขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ในพื้นที่ออกมาช่วยกันก่อกระสอบทราย เพื่อนำไปอุดจุดที่มีมวลน้ำทะลักเข้ามา


ซึ่งบริเวณดังกล่าว ใกล้เคียงกับวัดไชโยวรวิหาร หาก ปิดกั้นมวลน้ำไม่อยู่ จะทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม วัดไชโยวรวิหารซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโท และ พื้นที่ หมู่ที่ 1 ถึงหมู่ที่ 6 โดยใน อำเภอไชโย มีทั้งหมด 7 หมู่ ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดีร่วมแรงร่วมใจกันรวมตัวกรอกทราย


เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลไชโย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกษไชโย เจ้าหน้าที่ทหาร กองทัพบก ร.31 พัน.3 รอ. รวมถึงประชาชน และพระสงฆ์ ของวัดไชโย วรวิหาร ต่างเร่งก่อกระสอบทรายเพื่อนำไปอุดจุดที่มีน้ำทะลัก และ มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง โดยมีชาวบ้านที่มีบ้านใกล้กับจุดที่มีมวลน้ำทะลัก ยินยอมเสียสละ ให้น้ำท่วมบ้านบริเวณชั้นล่างเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของน้ำที่ทะลักเข้าเนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ และ ทำการนำเครื่องสูบน้ำออก


ทั้งนี้ที่ชุมชนบ้านพระหฤทัย หมู่ 3 ตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเข้าแผ่วงกว้างเพิ่มมากขึ้น ทำให้บริเวณโดยรอบวัดพระนามกรเยซูถูกน้ำท่วม เช่น บ้านพักพระสงฆ์ บ้านพักซิสเตอร์ ศาลาเอนกประสงค์ สุสาน พื้นที่บริเวณสนามของโรงเรียนพระกุมารเยซู ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางของช่อง 3 เพื่อแจกของให้กับผู้ประสบภัยเมื่อน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดสิงห์บุรี และบ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 280 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมทั้งหมด โดยมีระดับความสูง 2.50 ถึง 3 เมตร

คุณอาจสนใจ