ระดมทีมประดาน้ำช่วย 13 หมูป่ากู้เรือลากจูงล่ม - หาผู้สูญหาย ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก

อาชญากรรม

ระดมทีมประดาน้ำช่วย 13 หมูป่ากู้เรือลากจูงล่ม - หาผู้สูญหาย ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก

โดย nicharee_m

1 ต.ค. 2564

21 views

ระดมทีมประดาน้ำช่วย 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง ดำนำผูกโซ่กู้ซากเรือล่ม กลางสามแยกน้ำวนหน้าวัดพนัญเชิง ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยวกราก อุปสรรคสำคัญในการกู้เรือ ส่วนผู้สูญหายยังไม่พบตัว


ทีมกู้ซากเรือจากกรมเจ้าท่า ทราบพิกัดชัดเจนจุดที่เรือลากจูงจมอยู่ก้นแม่น้ำ อยู่บริเวณกลางสามแยกวังน้ำวน จุดบรรจบแม่น้ำ 2 สาย คือแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา จากการใช้เครื่องโซน่าสแกนตรวจ ตอนแรกพบเป็นวัตถุขนาดใหญ่มาก จึงให้นักประดาน้ำของกรมเจ้าท่า 2 นาย ได้ลงไปงมสำรวจ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ยืนยันว่าเป็นเรือที่อับปาง อยู่ในลักษณะตะแคงกับแม่น้ำป่าสัก ความลึกประมาณ 20 เมตร ซึ่งเป็นจุดกระแสน้ำไหลแรงและสีขุ่นมาก แม้ใช้ไฟฉายส่องใต้น้ำก็มองไม่เห็น ต้องใช้มือสัมผัสพบโครงหลังคาของเรือ


จากนั้นนักประดาน้ำนำเชือกดำลงไปผูกทุ่นกับเรือที่จมน้ำ ตามแผนต้องผูกให้ได้ 3 เส้น เพื่อให้เรือยนต์ลากซากเรือไปริมตลิ่งของแม่น้ำป่าสัก ตรงข้ามท่าน้ำวัดพนัญเชิง ซึ่งเป็นจุดที่น้ำนิ่ง ก่อนให้นักประดาน้ำลงไปค้นหาผู้สูญหายในเรือขึ้นมา เบื้องต้นผูกได้เพียง 1 เส้น ต่อมาทีมประดาน้ำจากหน่วยซีล ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่ไปช่วย 13 หมูป่าติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย มาช่วยสมทบ 12 คน ผลัดกันดำลงไปผูกเชือกกู้ซากเรือใต้น้ำลึกกว่า 20 เมตร


โดยเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา สามารถผูกโซ่ได้สำเร็จอีก 1 เส้น รวมเป็น 2 เส้น แต่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณนกหวีดขอความช่วยเหลือของนักปะดาน้ำดังขึ้น พบว่า นายสายัน เหมหงษ์ กู้ภัยอยุธยา ยิงลมเข้าเสื้อชูชีพพุ่งทะยานลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ร่างถูกน้ำพัดเข้าไปกระแทกกับริมตลิ่งและต้นไม้ ก่อนมีเจ้าหน้าที่บนฝั่งช่วยไว้ได้ทัน


นายสายัน เล่าว่า ขณะกำลังหาจุดผูกเชือกท้ายเรือ ได้มีมวลก้อนน้ำขนาดใหญ่ ไหลกระแทกที่หน้าอกอย่างแรง จนมือหลุดจากเชือกนำทางลอยเคว้งอยู่ในกระแสน้ำ จึงต้องช่วยตัวเองด้วยการ ยิงลมเข้าเสื้อชูชีพค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพแรงดันน้ำ แล้วเป่านักหวีดขอความช่วยเหลือ


ด้านนักประดาน้ำ ที่ดำลงไปผูกทุ่น เล่าว่า ใต้น้ำมีกระแสไหลแรงและเชี่ยวมาก มือต้องจับเชือกนำทางอย่างแน่น เพราะหากหลุดมืออาจถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งระหว่างผูกโซ่กับตัวเรือ กระแสน้ำพัดตัวจนเป็นแรงกระพือ คล้ายกับถูกแกว่งอยู่ในเปลญวน และยังพัดพาเศษขยะเศษเชือกติดพันตามลำตัว เป็นอันตรายอย่างมาก ยิ่งเวลาผ่านไปน้ำยิ่งแรงขึ้น ทั้งจากเจ้าพระยะและป่าสัก แรงทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนตัวเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณนี้ ก่อนลงน้ำจะยกมือไหว้หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง ขอบารมีคุ้มครองให้ปลอดภัย และปฏิบัติภารกิจครั้งนี้สำเร็จ


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้เรือยนต์ลากดึงซากเรือออกจากวังน้ำวน แต่เชือก 2 เส้นที่ผูกไว้ รับน้ำหนักเรือ รวมถึงต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว ทำให้เชือกเส้นที่ 2 ขาด กรมเจ้าท่าจึงสั่งระงับการกู้ซากเรือไว้ก่อน หวั่นความอ่อนล้าของทีมกู้ภัยจะเป็นอันตราย และให้วางแผนกู้ซากเรือใหม่ในวันนี้


ล่าสุด วันนี้ทางกองทัพเรือส่งนักประดาน้ำฝีมือดี 10 นาย ร่วมสนับสนุนการกู้ซากเรือ ส่วนปฏิบัติการกู้ซากเรือเช้านี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ส่วนผู้สูญหายทั้ง 2 คน ขณะนี้ยังหาไม่พบ โดยเมื่อคืนที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า มีคนพบเห็นศพผู้หญิงลอยผ่านหน้าวัดโบสถ์สมพรชัย เขตอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุุุธยา ห่างจากวัดพนัญเชิงวรวิหารประมาณ 30 กิโลเมตร สมาคมอยุธยารวมใจ ได้จัดกำลังค้นหาตามแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งคืน จนถึงช่วงเช้าวันนี้ ก็ยังไม่พบร่างของหญิงสาวที่มีการแจ้ง ก่อนจะยุติการค้นหา


สำหรับสาเหตุต้องเร่งกู้เรือ นอกจากเร่งค้นหาผู้สูญหายทั้งสองคนแล้ว หากปล่อยซากเรือไว้ใต้น้ำวังวนนาน จะถูกดินตะกอน ดินทรายที่น้ำพัดมาทับถม จะยิ่งกู้เรือได้ยากขึ้น

คุณอาจสนใจ

Related News