ความชัดเจนจากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ นอกจากแผนพื้นที่นำร่องในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ยังพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอีก 9 กิจการ/กิจกรรม เพิ่มเติม

(27 ก.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยข้อสรุปที่สำคัญ ยังคงพื้นที่สถานการณ์ตามโซนสีเดิม นั่นหมายความว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ สีแดงเข้มนั้น ก็จะเป็น 29 จังหวัดเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

ขณะเดียวกันที่ประชุม ได้เห็นชอบ ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปอีก 2 เดือน จะมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.ไปจนถึง 30 พ.ย.2564 เพื่อรอระหว่างขั้นตอน ร่างพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.โรคติดต่อ มีผลบังคับใช้

ส่วนมาตรการที่ผ่อนคลายนั้น การประกาศเคอร์ฟิวยังคงอยู่ แต่ลดจากเดิม 21.00-04.00 น. มาเป็น 22.00-04.00 น. ต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 15 วัน

ขณะที่ ห้างสรรพสินค้า ได้เห็นชอบ ขยายเวลาปิดจากเดิม 20.00 น. เป็น 21.00 น. และมีบางกิจการที่อนุญาตให้เปิดได้ คือ "โรงภาพยนตร์ สปา ฟิตเนส สระว่ายน้ำส่วนที่ยังเปิดไม่ได้ คือ "ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ห้องประชุม/จัดเลี้ยง"

นอกจากนี้ ศบค.ยังเห็นชอบคลายล็อกใน 9 กิจการ/กิจกรรม ที่น่าสนใจ สามารถเล่นดนตรีในร้านอาหารได้แล้ว ภายใต้มาตรการที่กำหนด เช่น จำกัดนักดนตรีไม่เกิน 5 คน นักดนตรีต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นนักร้อง ถอดหน้ากากได้ เฉพาะร้องเพลง และ ห้ามสัมผัสลูกค้า และกรณีร้านอาหาร ยังงดจำหน่าย-ดื่มสุราในร้าน

วนธุรกิจโรงภาพยนตร์ กลับมาเปิดได้ โดยจำกัดจำนวน 50% และต้องนั่งที่เว้นที่ (ยกเว้นกรณีมาด้วยกันให้นั่งด้วยกันได้) รวมถึงสวมหน้ากากตลอดเวลา ไม่รับประทานอาหาร

ขณะเดียวกัน ยังมีสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ ร้านนวด สปา เปิดได้ โดยยังไม่เปิดบริการอบไอน้ำ และต้องนัดล่วงหน้า จำกัดบริการ ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน เช่นเดียวกับ ร้านทำเล็บ และร้านสัก ที่เปิดได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

และที่ได้รับการผ่อนคลายด้วย อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและวัยก่อนเรียน, ห้องสมุดสาธารณะ, ศูนย์การเรียนรู้ ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมหอศิลป์ และพิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน

นพ.ทวีศิลป์ ยังบอกว่าที่ประชุมศบค.ได้เห็นชอบแนวทางนำร่องเปิดประเทศการท่องเที่ยว ที่น่าสนใจ คือ กทม. อยู่ในพื้นที่นำร่องระยะที่ 1 รวม 10 จังหวัด ซึ่งจะเริ่ม 1 พ.ย.2564

นอกจากนี้ เห็นชอบปรับลดระยะเวลาในการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศ กรณี ผู้มีเอกสารวัคซีนโควิด-19 ครบ เหลือ 7 วัน กรณีผู้ที่ยังไม่มีเอกสารวัคซีน ให้กักตัว 10-14 วัน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/pfgXyOAU318