วันนี้ (16 ก.ย. 64) มีการชุมนุมของเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งนัดชุมนุมกันที่สกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน ก่อนจะสลายตัวเมื่อราว 18 นาฬิกา ส่วนที่บริเวณแยกดินแดง ค่ำวันนี้มีความชุลมุนเกิดขึ้น เมื่อผู้อาศัยที่แฟลตดินแดง รวมตัวแสดงความเห็นคัดค้านแนวทางเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก๊ส และระหว่างนั้นก็ควบคุมตัวชายคนหนึ่ง พกวัตถุคล้ายระเบิดเข้าไปใกล้ที่ชุมนุม

เกิดความชุลมุนขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ขณะที่ผู้อาศัยแฟลตดินแดง รวมตัวกันที่แยกข้างสวนป่าไมตรี 1 เพื่อแสดงความเห็นคัดค้านแนวทางเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุแก็ส

ระหว่างนั้น กลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นชาวบ้าน ได้ควบคุมชาย 2 คนไว้ จนเกิดความชุลมุนขึ้น จากนั้นได้ค้นตัวของทั้งคู่ ซึ่งในตัวของชายวัย 33 ปี พบวัตถุพันด้วยเทปสีดำ เป็นก้อนกลมประมาณ 6 ลูก คล้ายระเบิดปิงปอง ซุกอยู่ในกระเป๋าคาดเอว ชายคนดังกล่าว ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่ามาชุมนุมจริง โดยไม่สังกัดกลุ่มใด แต่ไม่ขอตอบคำถามที่ว่า วัตถุคล้ายระเบิดนั้น เป็นของตัวเองหรือไม่ ระหว่างนั้นตำรวจสายตรวจสน.ดินแดง ได้นำตัวชายคนดังกล่าว พร้อมกระเป๋าสะพาย และรถจักรยานยนต์ ไปปากคำเพิ่มเติม ที่สน.ดินแดง

ขณะที่ย่านดินแดง ตั้งแต่ช่วงค่ำ มีการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมทั้งกำลังพล และรถดับเพลิงไว้

ส่วนการชุมนุมที่สกายวอล์ค แยกปทุมวัน ของกลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เวลา 14นาฬิกาวันนี้ มีการหมุนเวียนขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรี โดยผู้ชุมนุมชูป้าย การชุมนุมวันนี้ว่า "16 กันยา วันพิพากษาประยุทธ์"

กระทั่งเวลาประมาณ 18 นาฬิกา 20 นาที มีตัวแทนแกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ขึ้นเวทีปราศรัยเรียกร้อง 3 ข้อ คือให้นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ และปฎิรูปสถาบัน จากนั้นมีการแสดงละครใบ้ เพื่อแสดงสัญลักษณ์การถูกกดขี่จนต้องลุกมาต่อมาสู้ และประกาศสลายการชุมนุมประมาณ 18 นาฬิกา 40 นาที

ทางด้าน พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่รองผู้บังคับหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน ไปชี้แจงต่อกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ปฎิบัติงานที่เข้าข่ายเกินกว่าอำนาจรัฐ ว่าถือเป็นความผิดเฉพาะตัวที่เจ้าหน้าที่นายนั้น ต้องรับผิดชอบเอง ไม่เกี่ยวกับต้นสังกัด ซึ่งคำชี้แจงดังกล่าว ทำให้กรรมาธิการบางคนเห็นว่า เป็นการไม่คุ้มครองเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติบัติงาน

โดยผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ประกาศใช้ หากการชุมนุมมีความรุนแรง ก็สามารถบังคับใช้กฎหมายนั้นได้ โดยมีเพียงเครื่องมือที่ได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต และมีขั้นตอนปฎิบัติชัดเจน

แต่หากผู้ใดได้รับอันตราย โดยไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ก็ใช้สิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายได้ และเจ้าหน้าที่ต้องพร้อมพิสูจน์ว่าการดำเนินการดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่