จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ผ่านมา มีพี่ชายของน้องผู้ชายคนนึง ได้เข้ามาคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โดยพี่ชายคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ได้ระบุว่า

“น้องชายผมเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาได้ 2 วัน แต่ผลผ่าชันสูตรหมอลงความเห็นว่าน้องผม “หลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจผิดปกติ” ซึ่งน้องผมไม่มีโรคประจำตัว ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และที่สำคัญ น้องผมกำลังจะทำเรื่องขอจบและรอรับปริญญาปีหน้าครับ”

ผู้เสียชีวิตชื่อ กาฟิวส์ อายุ 22 ปี ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา วันที่ 25 ส.ค.64 จากนั้นวันที่ 27 ส.ค.64 เวลาประมาณบ่าย 3 โมง แม่พบว่านอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน น้องกำลังจะทำเรื่องขอเรียนจบปริญญาตรี ทางญาติเลยติดใจและสงสัยในสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งทางรายการนำเสนอข่าวนี้ไปเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 ก.ย.) ทางคุณแบงค์ พี่ชายของน้องผู้เสียชีวิต ได้เปิดเผยกับทีมงานรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ทาง สปสช. ติดต่อมาทางคุณพ่อของน้องผู้เสียชีวิต ว่าทางคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติเงินเยียวยาให้กับทางครอบครัวแล้ว เป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท ตอนนี้รอทางหน่วยงานโอนเงินเข้าบัญชี

คุณแบงค์ พี่ชายของน้องที่เสียชีวิต บอกเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ได้เผาศพของน้องชายไปแล้ว ซึ่งทางครอบครัวก็ยังติดใจผลการชันสูตรที่แพทย์ระบุไว้ว่า “หลอดเลือดแดงเลี้ยงหัวใจผิดปกติ” แต่ก็เข้าใจว่าเหตุใดแพทย์ถึงระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตมาจากวัคซีนโดยตรงไม่ได้

พร้อมกับบอกว่า อยากให้เคสของน้องชายตนเป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้เกิดกับครอบครัวอื่นอีก รวมถึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาอย่างจริงจังว่า ควรฉีดวัคซีนแต่ละชนิดให้กับคนอายุเท่าไหร่ และไม่ควรฉีดให้กับคนในช่วงอายุเท่าไหร่บ้าง

อีกทั้งยังต้องการให้ สปสช. อธิบายขั้นตอนการขอยื่นเยียวยาให้กับประชาชนอย่างละเอียด และเข้าใจง่าย เพราะทุกวันนี้ยังมีคนติดต่อสอบถามมาทางคุณแบงค์ ว่าต้องทำเรื่องยื่นเยียวยาอย่างไร เมื่อเกิดผลกระทบจากวัคซีน

สุดท้าย คุณแบงค์ครอบครัวได้ฝากขอบพระคุณ คุณอาสรยุทธ และทีมงานนักข่าวมากๆ ที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้น้องชายของตน และคนอื่นๆที่เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนมาโดยตลอด เนื่องจากตนเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่รู้จะไปพึ่งใครจริงๆ จึงได้โพสต์ลงในเพจ เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/4mlrgDyFn4o