พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกรณี ดีเอสไอ ตรวจสอบพบรถยนต์ลัมโบร์กีนีของผู้กำกับโจ้อยู่ในคดีรถหรูเลี่ยงภาษี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : วงในแฉ 'ผกก.โจ้' โชว์พาวให้ลูกน้องดู ฉุนขยายผลจับคดียาไม่ได้ดั่งใจ ก่อนบานปลายดั่งในคลิป

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลในระบบบริหารคดีของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบว่าในจำนวนรถยนต์ที่ปรากฏเป็นข่าว มีรถหรู ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่น Aventador LP720-4 50th Anniversario หมายเลขตัวรถ ZHWEC1ZD6ELA02280 สีเหลือง ของผู้กำกับโจ้ เป็นคดีพิเศษที่ 199/2560 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับผิดชอบ ซึ่งกระบวนการสอบสวนได้เสร็จสิ้นและได้มีการส่งสำนวนการสอบสวนไปยังพนักงานอัยการแล้วเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 62 ปัจจุบันคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด

สำหรับรถหรูลัมโบร์กินีคันนี้ นำเข้ามาจากบริษัทต่างประเทศ โดยมีการสำแดงราคานำเข้าเป็นเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย มูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท จึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้ารถหรูคันดังกล่าว

ซึ่งหากตรวจพบว่าผู้ครอบครองมีส่วนรู้เห็นด้วย ก็จะต้องดำเนินคดี แต่เบื้องต้นตรวจสอบพบเพียงแค่ว่ามีชื่อครอบครองเป็นคนแรก และได้โอนให้บุคคลอื่นไปแล้วเมื่อเดือน ก.พ. 64 โดยไม่ทราบว่าเป็นการโอนจากการซื้อขาย หรือลักษณะใด

ส่วนจะมีรายการรถคันอื่นๆ ที่อยู่ในคดีพิเศษ ที่ผู้กำกับโจ้มีชื่อครอบครอง หรือมีความเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ขณะนี้พบเพียงคันนี้เป็นคันแรก

ส่วนประเด็นรางวัลนำจับที่มีรายงานข่าวว่า เป็นรายได้หลักของผู้กำกับโจ้ ทางกรมกุลกากร ชี้แจงว่า ตามกฏหมายศุลกากร ปี 60 จะมีสินบนเงินรางวัลให้เจ้าหน้าที่จับกุม 40 เปอร์เซ็นต์ และ 1 คดี จะได้เงินสินบนไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่ว่าจะจับรถยนต์ได้กี่คันก็ตาม และจากราคาที่นำรถ 363 คัน ไปประมูลทางพิธีการศุลกากร

เบื้องต้นทราบว่า น่าจะได้เงินประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งเงินส่วนแบ่ง หรือ รางวัลนำจับ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่าอาจจะมีการนำไปแบ่งกับชุดที่มีการจับกุม มีรายงานว่าเงินส่วนแบ่ง หรือรางวัลนำจับที่ผู้กำกับโจ้ ได้จากการผ่านพิธีการประมูล เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีมากถึง 400 ล้านบาท

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ngt-cW3cKW8