นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข กล่าวถึง กรณีที่มีผลวิจัยของกระทรวงสาธารณสุข ว่ายาฟาวิพิราเวียร์ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 นั้น ตนขอยืนยันว่ายังคงมีประสิทธิภาพที่ดี เนื่องจากมีการศึกษา บันทึก วิจัยอย่างเต็มศักยภาพ โดยทุกวันนี้ผู้ป่วยโควิด-19 หายจากโรคก็เพราะยาฟาวิพิราเวียร์ทั้งนั้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดจากกราฟของผู้ที่หายป่วยมีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในส่วนที่มีกรณีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น อาจเป็นเพราะสายพันธุ์ที่มีการกลายพันธุ์ ส่งผลให้มีการแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันในส่วนของการทำงานของการกระจายวัคซีนนั้น ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร คาดว่าประชาชนได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมทุกพื้นที่แล้ว

ขณะเดียวกันในส่วนที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคมาเพิ่ม 12 ล้านโดสนั้น ตนมองว่า หากไม่ได้วัคซีนซิโนแวคอาจส่งผลให้มีจำนวนของผู้ติดเชื้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพดีในช่วงของต้นปี แต่ตอนนี้ได้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งนักวิจัยต่าง ๆ ก็ไม่นิ่งนอนใจ เร่งศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา โดยการนำสูตรวัคซีนแบบไขว้มาป้องกันความรุนแรงของอาการของผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อเร่งสร้างภูมคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชน และเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยลดการแพร่เชื้อฯ ไม่ป่วยหนัก และไม่เสียชีวิต ซึ่งเป็นเส้นทางที่ทำให้เร่งกลับสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ขอประชาชนมั่นใจในกระบวนการทำงานของวัคซีนที่มีในประเทศไทย

ส่วนความกังวลใจในประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบทั้ง 2 เข็มแล้วนั้น แต่ยังคงต้องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ทางกระทรวงสาธารณสุขก็พร้อมที่จะเร่งฉีดให้ตามกระบวนการทำงานอย่างเร่งด่วนต่อไป ขณะที่สถานการณ์ความคืบหน้าด้านวัคซีนนั้น คาดว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าไปด้อยค่ายี่ห้อวัคซีนใดเลย มั่นใจวัคซีนมีข้อดีทุกข้อ

อย่างไรก็ตาม นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนกรณีการประมูลชุดตรวจโควิด-19 แบบ (ATK) นั้นมีการล็อกสเปคหรือไม่นั้น ในตัวหน่วยงานตนมิได้มีการควบคุมโดยตรง ซึ่งในส่วนขององค์การเภสัชกรรมก็มีทางประธานบอร์ดควบคุมดูแลอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี ตนมองว่าเป็นอำนาจหน้าที่การตัดสินใจของแต่ละบอร์ดเพียงเท่านั้น ยืนยันไม่มีการล็อกสเปคอย่างแน่นอน