กรณีสามีสติแตก บุกทำลายข้าวของภายในบ้านพังเสียหาย สาเหตุเพราะเมียหลวงไม่ยอม ให้พาผู้หญิงอีกคนเข้ามาอยู่ในบ้าน ล่าสุดแม่สิตางศุ์ เห็นข่าวประสานโรงพยาบาลเสริมความงามเนรมิตทั้งตัวให้เมียหลวง คุณแม่ลูก 2

จากที่มีเพจดัง นำคลิปภาพ ระบุข้อความว่า "#พังของในบ้านหมด ในเมื่อหย่าแล้วก็ไม่ควรทำเช่นนี้ ควรนึกถึงสภาพจิตใจของลูกบ้าง เรื่องสาเหตุคงไม่ก้าวก่าย แต่ทำลายข้าวของพังทั้งหมดอันนี้ไม่สมควรอย่างยิ่ง ควรแยกแยะให้ออกนะคะ บางใหญ่ ผู้ชายมีเมียน้อย แล้วจะพาเมียน้อยเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย พี่สาวเราไม่ยอมเลยขอหย่า พอหย่าเสร็จก็มาทำลายข้าวของ ของลูกของเมียไม่เหลืออะไร ไม่สงสารลูกเมียเลย"

เรื่องนี้หลังเป็นข่าวโด่งดังในสื่อต่างๆ ทำให้มีคนเข้ามาให้กำลังใจคุณแพร คุณแม่ลูกสอง อายุ 33 ปี รายนี้จำนวนมาก พร้อมกับต่อว่าฝ่ายชายอดีตสามีที่ทำร้ายจิตใจเมียและลูกสาว ซึ่งหลังเกิดเหตุฝ่ายหญิงได้ขอหย่าขาดจากสามี และขอเปลี่ยนนามสกุล ไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก

ล่าสุด คุณแม่สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลชื่อดัง ซึ่งเพิ่งผ่านการเสริมความงามทั้งใบหน้ามาได้ติดต่อไปยังคุณแพร หลังทราบเรื่อง และไปพบกับ น.ส.พิศพรรณ ศรีไชย์ยันต์ หรือปิ่น กรรมการผู้จัดการบริหารของโรงพยาบาลเลอลักษณ์ พร้อมพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยทางคุณปิ่น ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพื่อทำศัลยกรรมเนรมิตให้คุณแพรได้สวยงามทั้งเรือนร่าง

คุณปิ่น กล่าวว่า น้องเป็นคนที่มีหน้าตาน่ารักอยู่แล้ว ทาง รพ.จะปรับเปลี่ยนโครงหน้า โหนกแก้ม คาง คิ้ว เสริมหน้าอก เนื่องจากน้องผ่านการมีลูกมาแล้ว ทางเราจะดูที่หน้าท้องด้วย หากท้องลาย ท้องหย่อน จะแก้ไขให้สวยงามดังเดิม ซึ่งคาดว่าคงต้องใช้เวลาหลายเดือน จะกลับมาสวยงามไม่แพ้สาวรุ่นแน่นอน ส่วนค่าใช้จ่ายทาง รพ.จะรับผิดชอบทุกอย่าง

ด้านคุณแม่สิตางค์ บอกว่า ตนรู้สึกสงสารน้องเขามาก ขนาดอยู่กินกันมา 15 ปี ยังทำได้ขนาดนี้ ตนเองขนาดคนรักไปเที่ยวผู้หญิงยังขยะขแยงไม่ให้เข้าใกล้เลย ผู้หญิงกว่าจะแน่ใจ มีใจจนยอมแต่งงานมีลูกด้วย ไม่ใช่เรื่องง่าย ทราบว่าน้องเขาจะเปลี่ยนนามสกุลแล้ว ตนว่าดีจะได้ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก

ขณะที่ คุณแพร กล่าวทั้งน้ำตายกมือไหว้ขอบคุณ คุณปิ่น และแม่สิตางค์ ที่ให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ พร้อมกับบอกว่า จริงๆ แล้วตนก็ไม่เคยคิดอะไรในเรื่องนี้ อยากทำงานหาเงินเลี้ยงลูกมากกว่า ถ้าหากสวยขึ้นมาแล้วอดีตสามีมาขอคืนดีด้วย ตนขอยืนยันเลยว่าไม่กลับไปแน่ ขออยู่กับลูกๆ ดีกว่า