ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า การส่งยาให้กับผู้ป่วยโควิด 19 ที่รักษาตัวอยู่บ้าน เป็นไปอย่างล่าช้า ทั้งด้วยขั้นตอน และจำนวนผู้ป่วยที่มีจำนวนมากทุกวัน ทีมข่าว3 มิติ ได้ไปติดตามปัญหานี้ พบว่า กรมการแพทย์ ภาคเอกชน และจิตอาสา ได้ร่วมกันพัฒนาระบบการส่งยาฟาวิพิราเวียร์ ให้กับผู้ป่วยให้รวดเร็ว รวมทั้งการเคลียร์ผู้ป่วยที่รอยาอยู่ตามบ้านจำนวนหลายหมื่นคน

ยาฟาวิพิราเวียร์ ถูกบรรจุส่งตามรายชื่อของผู้ป่วยโควิด-19 ที่ติดต่อผ่านทางสายด่วน 1330 หรือผู้มีสิทธิ์การรักษาประกันสังคม 1506 หรือเครือข่ายแพทย์จิตอาสาต่างๆ ซึ่งแพทย์ได้รับการประเมินว่าอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวและสีเหลือง ซึ่งสามารถรักษาแบบ Home Isolation

กลุ่มแพทย์ และพยาบาลจิตอาสา รวมทั้งเครือข่ายภาคเอกชน จากหลากหลายอาชีพ จึงได้มาร่วมกลุ่มกันเพื่อกระจายยาฟาวิพิราเวียร์ไปถึงผู้ป่วยถึงบ้านให้เร็วที่สุด หลังจากได้รายชื่อที่ผ่านการประเมินจากแพทย์แล้วว่าจะต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์แล้วพยาบาลจิตอาสา ก็บรรจุยาลงกล่อง พร้อมเขียนชื่อที่อยู่ เพื่อจัดส่ง

โดยมีแพทย์และพยาบาลอีกกลุ่มหนึ่ง ใช้การรักษาแบบเทเลเมดดิซีน เพื่อสอบถามอาการของผู้ป่วยผ่านวิดิโอคอล เมื่อแบ่งสีกลุ่มผู้ป่วยได้แล้ว ก็จะแยกว่าผู้ป่วยรายใด อาการเชื้อเริ่มลงปอดควรได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ เนื่องจากยาชนิดนี้จะมีผลต่อตับ และไต จึงต้องจ่ายยาให้ผู้ป่วยได้เฉพาะผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัว ที่เกี่ยวกับตับและไต

การจัดส่งจึงต้องร่วมมือกับจิตอาสาภาคเอกชน ที่ต้องมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยเสริม เพื่อให้ยาถึงมือผุ้ป่วยรวดเร็วทันเวลา จากที่มีปัญหายาถึงผู้ป่วยช้า จากที่เคยส่งได้วันละ 500 คน ขณะนี้เพิ่มเป็นวันละ 1000 คนแล้ว ลดจำนวนผู้ป่วยจากสีเหลืองให้เป็นสีเขียวได้มาก

หลังจากมารับยาแล้ว ทีมไรเดอร์ ที่คอยจัดส่งยา ให้ผู้ป่วย จะมีทั้งภาคเช้า และภาคบ่าย จะส่งตามบ้านเลขที่หน้ากล่อง

ขณะนี้ผู้ป่วยที่รักษาแบบHome Isolationหากเข้าระบบแล้ว จะได้รับยาในวันถัดไป ซึ่งนับว่าเป็นพัฒนาระบบการส่งต่อยาที่ทันเวลา เพื่อระงับเชื้อที่จะลุกลามได้ทัน จึงนับว่าทำให้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการดีขึ้น