เปิดใจ 'บังซา' อาสาไลฟ์แฉ รับวิตกจริต ยังมีอาการเหนื่อยหอบ หวั่นแพร่เชื้อให้เพื่อนบ้าน

สังคม

เปิดใจ 'บังซา' อาสาไลฟ์แฉ รับวิตกจริต ยังมีอาการเหนื่อยหอบ หวั่นแพร่เชื้อให้เพื่อนบ้าน

โดย pattraporn_a

29 ก.ค. 2564

302 views

กรณีของ บังซา อาสากู้ภัยที่ติดเชื้อโควิดแล้วรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุษราคัม แล้วไลฟ์เฟซบุ๊กเรื่องความไม่สะอาดในห้องน้ำ ปรากฎว่าเมื่อคืนนี้บังซาถูกให้ออกจากโรงพยาบาลทันที ทั้งที่ยังรักษาตัวไม่ครบ 14 วัน จนเกิด #เซฟบังซา


"บังซา" ชื่อนี้ถูกจุดกระแสให้กลายเป็นที่รู้จักภายใน 24 ชั่วโมง หลังเขาเมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) ไลฟ์เฟซบุ๊กเรื่องความสกปรกของห้องในโรงพยาบาลสนามบุษราคัม เรียกร้องให้มีการจัดการที่ดีกว่านี้ รวมถึงขอให้ผู้ป่วยที่มารักษาตัวช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย จนสื่อหลายสำนักนำไปเสนอ หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงห้องน้ำดังกล่าวก็มีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาด


จากนั้นช่วงค่ำ บังซา ก็ไลฟ์เฟซบุ๊กเล่าเรื่องราวตั้งแต่เขาติดโควิด และเข้ามาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามบุษราคัมจนถึงทุกวันนี้ พอไลฟ์ไปราว 15 นาที ก็มีเจ้าหน้าที่บอกมาว่ามีคนเสียชีวิตจากโควิดอีก 1 คน เขาจึงไลฟ์เฟซบุ๊กไปด้วย และเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่เก็บร่างผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่า คืนเดียวมีผู้เสียชีวิตแล้วถึง 8 ราย จากนั้นไลฟ์แนะนำเรื่องการทำโรงพยาบาลสนาม และวิธีการจัดการ


กระทั่งช่วงเย็นก็มีโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ มาบอกให้กลับบ้านได้ และให้พาเมียและลูกสาววัย 9 ขวบ กลับไปด้วย ทั้งที่เขายังรักษาตัวไม่ครบ 14 วัน โดยมีอาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่เข้ามากอดให้กำลังใจจำนวนมาก และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของ #เซฟบังซา #เซฟเหนือหนึ่งห้า


วันนี้ (29 ก.ค.) ทีมข่าวเดินทางไปพบ นายทรงวุฒิ หวังผล หรือ บังซา อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู วัย 52 ปี ที่บ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 64 ลักษณะเป็นห้องเช้าชั้นเดียวปลูกติดกันหลายห้อง ซึ่งเพื่อนข้างบ้านก็ใช้วิธีเอาแผ่นไม้อัดกั้นระหว่างห้อง เพราะไม่แน่ใจว่าทั้งครอบครัวหายขาดหรือยัง ซึ่งในเรื่องนี้บังซาก็เข้าใจ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองหายดีรึยัง และยังมีเชื้ออยู่ไหมบังซา


เปิดใจกับทีมข่าวว่า เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบุษราคัม ตั้งแต่ 17 กรกฎาคม และมีกำหนดออกวันที่ 30 กรกฎาคม แต่เมื่อวานก็โดนให้ออกทันที ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ไม่ได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ และไม่ได้ตรวจร่างกายด้วย ทั้งที่เขายังมีอาการเหนื่อย ประกอบกับเป็นภูมิแพ้ และโรคหืดหอบ ทำให้รู้สึกวิตกจริต


ขณะที่ นางสาวกัลยา มะลิแย้ม อายุ 32 ปี ภรรยาของบังซา ที่ป่วยโควิดและเข้ารักษาตัวที่นี่เช่นกัน แม้จะหายแล้วแต่ก็อยู่เป็นจิตอาสาช่วยดูแลผู้สูงอายุ ก็โดนให้กลับบ้านมาด้วย ตอนนี้ทั้ง 3 คน พ่อแม่ลูก ก็ได้แต่กักตัวอยู่ภายในบ้าน ไม่กล้าออกไปขายไก่ย่าง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองหายดีหรือยัง ส่วนสาเหตุที่เขาโดนให้ออก น่าจะมาจากเรื่องการไลฟ์เฟซบุ๊ก สะท้อนปัญหาที่พบในโรงพยาบาลสนาม


ซึ่งระหว่างที่ทีมข่าวสัมภาษณ์ ปรากฎว่ามีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลมาสอบถามว่าได้กลับบ้านหรือยัง และได้ใบรับรองแพทย์ไหม แต่ปฏิเสธที่จะตอบเรื่องให้กลับบ้านก่อนกำหนด


ด้าน นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนามบุษราคัม ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ระบุว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ให้ไปสอบถามแพทย์ที่ดูแลคนไข้รายนี้ พร้อมบอกว่าปกติแล้ว ถ้าคนป่วยหายก็ต้องกลับไปรักษาที่บ้าน



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/ww_pofWSedk

คุณอาจสนใจ

Related News