รอบนี้ไม่มีคำว่า 'ขอความร่วมมือ' แจงชัด 'ล็อกดาวน์' 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เริ่ม 20 ก.ค.64

สังคม

รอบนี้ไม่มีคำว่า 'ขอความร่วมมือ' แจงชัด 'ล็อกดาวน์' 13 จังหวัดสีแดงเข้ม เริ่ม 20 ก.ค.64

โดย thichaphat_d

19 ก.ค. 2564

2.6K views

ศปก.ศบค. เปิดเวทีหารือสื่อมวลชน พร้อมตอบข้อซักถาม โดยเฉพาะการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด19 ที่จะเข้มข้นมากขึ้น ระบุ สามารถใช้คำว่า "ล็อกดาวน์พื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม" แต่จะเป็นการสั่งห้ามหรือไม่ ต้องดูความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง


พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด -19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและข้อมูล ข้อเสนอแนะ รวมถึงข้อซักถามของสื่อมวลชนต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า


ที่ประชุมได้ใช้เวลาในการหารือกับตัวแทนสื่อต่าง ๆ นานกว่า 3 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่ราว 2 ชั่วโมงครึ่ง เป็นการเปิดเวทีให้สื่อมวลชน ซักถามข้อสงสัยและเสนอแนะในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับทาง ศปก.ศบค. ในการปรับปรุงการทำงาน โดยในเวทีนี้ได้มีการซักถามถึงแนวทางในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร กรณีการยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามประกาศฉบับล่าสุด ว่า


ครั้งนี้สามารถใช้คำว่า "ล็อกดาวน์" ได้หรือไม่ โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีอนุญาตให้ใช้คำว่า "ล็อกดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้ม" ได้ โดยมีการตั้งด่านตรวจสกัดอย่างเข้มแข็งใน 13 จังหวัด ไม่ได้หมายถึงการล็อกดาวน์ไม่ให้ออกจากบ้าน แต่คำว่า "ขอความร่วมมือ" คราวนี้จะไม่ใช้แล้ว


ส่วนจะเป็นการสั่งห้ามเลยหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า การใช้คำว่า "ห้าม" อาจทำให้ดูเหมือนมีผลกับทุกกิจการ แต่ในความเป็นจริงแล้วในข้อกำหนด ยังมีการเว้นในบางกิจกรรมที่ยังสามารถทำได้ จึงขอให้ใช้คำว่า "หลีกเลี่ยง หรือ งด" โดยยกตัวอย่างเช่น การเดินทางออกจากบ้านไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ในช่วง 14 วัน อาจจะออกมาได้ 1-2 ครั้ง (ลดจำนวนการออกจากเคหะสถาน)


ส่วนภาคเอกชน มีการขอในบางกิจการที่ไม่สามารถปิดกิจการได้ เนื่องจากจะมีผลต่อภาคเศรษฐกิจ เช่น ภาคการผลิต การส่งออก สถาบันการเงิน หรือ โทรคมนาคม จึงขอความร่วมมือภาคเอกชน ให้ปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT หรือ ขอความร่วมมือเวิร์กฟรอมโฮมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่องดการเดินทาง เป็นต้น ซึ่งการใช้คำว่า "หลีกเลี่ยง หรือ งด" จะตรงกับข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติมากกว่า เนื่องจากการออกประกาศ หรือคำสั่ง เมื่อประกาศไปแล้วต้องทำได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมา


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ระบุว่า ในข้อกำหนด มีการระบุชัดเจนถึงข้อ "ห้าม" เช่น ห้ามบุคคลในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้นต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน


ส่วนการลด-จํากัดการเคลื่อนย้ายการเดินทาง โดยให้ประชาชนในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด เลี่ยง จํากัด หรืองดเว้นภารกิจที่ต้องเดินทางออกนอกเคหสถาน หรือที่พํานักโดยไม่จําเป็น ยกเว้นการเดินทางเพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จําเป็น ต่อการดํารงชีวิต อาหาร ยาหรือเวชภัณฑ์ การเดินทางเพื่อพบแพทย์ เพื่อเข้ารับบริการทางการแพทย์ และสาธารณสุข การรักษาพยาบาล การรับวัคซีนป้องกันโรค หรือมีความจําเป็นเพื่อปฏิบัติงาน


หรือการประกอบอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ สามารถกระทําได้แต่ต้องพึ่งใช้ ความระมัดระวังในการป้องกันตนเองตามคําแนะนําของพนักงานเจ้าหน้าที่ และปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันโรคที่ทางราชการกําหนดอย่างเคร่งครัด จึงขอให้ยึดแนวทางการสื่อสารข้อมูลตามข้อกำหนดที่มีการระบุไว้


ส่วนมาตรการปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ตั้งแต่วันอังคารที่ 20 กค. โดยให้เปิดได้เฉพาะ ซูเปอร์มาร์เก็ต , ร้านขายยา , ฉีดวัคซีน ที่จะเปิดได้ถึง 2 ทุ่ม ร้านหรือกิจการอื่นใดในห้างฯ นอกเหนือจากนี้ปิดทั้งหมด


ส่วนกิจการ “นอกห้าง” ต่อไปนี้ เปิดได้ตามปกติ ได้แก่

การดําเนินการของโรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกแพทย์รักษาโรค ร้านขายยา ร้านค้าทั่วไป โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกรรมการเงิน ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง (กรณีเป็นร้านขนาดเล็ก ไม่ใช่ลักษณะเป็นศูนย์การขายอุปกรณ์ก่อสร้าง)


ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดอันจําเป็น สถานที่จําหน่ายแก๊สหุงต้ม เชื้อเพลิง ปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส รวมท้ังบริการส่งสินค้าและอาหารตามส่ัง (delivery online) ยังคงเปิดดําเนินการได้ ตํามความจำเป็น โดยให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด”



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/FecAZap5jGo

คุณอาจสนใจ

Related News