สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต สูงสุดอีกครั้ง ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ประจำวันเกินหมื่นคนเป็นครั้งแรก ส่วนผู้เสียชีวิตก็พุ่งขึ้นมามากกว่าทุกวันที่ผ่านมา คือ 141 คน นับเป็นสถิติใหม่ตั้งแต่พบการระบาด อธิบดีกรมควบคุมโรคก็ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิต ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกใน3-4เดือนนี้หากยังไม่มีมาตรการเพิ่ม

ยอดติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 10,082 คน ผู้เสียชีวิต 141 คน ทำให้ไทยติดอันดับที่ 55 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ในจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ 10,082 คน มาจากระบบเฝ้าระวัง 7,443 คน คัดกรองเชิงรุก 2,470 คน เรือนจำ 127 คน และต่างประเทศ 42 คน ทำให้ยอดสะสมตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา รวม 363,126 คน โดยเกือบครึ่งหนึ่งของผู้เสียชีวิตวันนี้ อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มากถึง 71 คน ผู้ป่วยที่ยังรักษา 110,565 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,454 คน และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 839 คน

ผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ยังเป็นกทม. 2,302 คน , ตามมาด้วยสมุทรปราการ 849 คน , สมุทรสาคร 680 คน , ชลบุรียังเพิ่มต่อเนื่อง อยู่ที่ 659 คน เป็นนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ส่วนนนทบุรี 471 คน ภาพรวมพื้นที่กทม.กับปริมณฑล พบผู้ติดเชื้อรวม 4,841 คน และขณะนี้พบการติดเชื้อกระจายครบทั้ง 77 จังหวัด และยังมีรายงานพบคลัสเตอร์ใหม่ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงผ่าน Facebook กระทรวงสาธารณสุข ยอมรับว่า ยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต กระทบต่อระบบสาธารณสุข มากกว่าร้อยละ 70 พบเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวเรื้อรัง

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าหากยังไม่มีมาตรการอะไรจะทำให้มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจำนวนมากไปอีกสามถึงสี่เดือนจึงจำเป็นต้องมีการยกระดับมาตรการควบคุมโรค โดยเฉพาะการจำกัดการเดินทางซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการแพร่ระบาดของโรค

ส่วนสถานการณ์ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะภาคกลาง และภาคตะวันออก อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ยังพบการระบาดในพื้นที่โรงงานและสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งผู้ประกอบการและแรงงาน ยังต้องเข้มมาตรการ bubble and seal

ส่วนที่ต้องจับตา คือ หลังการประชุมศบค.เมื่อวานนี้ ที่นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเตรียมยกระดับมาตรการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม วันนี้มองไปที่การประชุมวาระพิเศษของ ศบค. ที่อาจประกาศยกระดับมาตรการที่เข้มข้นเทียบเท่ามาตรการเมื่อเดือนเมษายน ปี 2563 เช่นการปิดกิจกรรมและกิจการเต็มรูปแบบในกรุงเทพและปริมณฑล ปิดกิจการที่ไม่จำเป็นเพิ่ม, การขยายพื้นที่ล็อกดาวน์, จำกัดการเดินทาง และเร่งรัดฉีดวัคซีน แต่ล่าสุดยังคงใช้มาตรการเดิมที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา