มาตรการยกระดับคุมโควิด 'ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว' พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด มีผล 12 ก.ค.นี้

สังคม

มาตรการยกระดับคุมโควิด 'ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว' พื้นที่สีแดงเข้ม 10 จังหวัด มีผล 12 ก.ค.นี้

โดย weerawit_c

10 ก.ค. 2564

31 views

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงตอนหนึ่งว่า ในที่ประชุมศบค. สมควรให้ขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขต ทั่วทุกท้องที่ในราชอาณาจักรเป็นครั้งที่ 13 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 แล้วจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2564 โดยมติที่ประชุมศบค. วันนี้ มีหลักคิดเพื่อจำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มของบุคคลเฉพาะพื้นที่ หรือที่เรียกว่า “ล็อกดาวน์”


รวมทั้งกำหนดเวลาการออกนอกเคหสถาน หรือ “เคอร์ฟิวส์” ควบคู่ไปกับการเร่งรัดมาตรการด้านการป้องกันโรค โดยมีการปรับ ระดับพื้นที่สถานการณ์ มีการแบ่งสีพื้นที่ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือ “สีแดงเข้ม” 10 จังหวัด โดยแบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการสมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี นราธิวาสปัตตานี ยะลา และสงขลา พื้นที่ควบคุมสูงสุด “สีแดง” จาก 5 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุม “สีส้ม” จาก 9 จังหวัดเป็น 25 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง “สีเหลือง” 53 จังหวัด เหลือ 18 จังหวัด และ พื้นที่เฝ้าระวัง “สีเขียว” จาก 0 จังหวัดคงที่เท่าเดิม


โดยข้อปฏิบัติแรกที่บังคับใช้ใน 6 จังหวัดกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทั้งนี้ ข้อปฏิบัติ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรหรือพื้นที่สีแดงเข้ม จะบังคับใช้ใน 6 จังหวัด เฉพาะ กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล คือ


1.จำกัดการเคลื่อนย้าย และการดำเนินกิจกรรมของบุคคลให้มากที่สุด

- กำหนดให้ส่วนราชการรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนเวิร์คฟอร์มโฮมให้มากที่สุด โดยไม่กระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และการบริการประชาชน

-ระบบ ขนส่งสาธารณะปิดให้บริการได้ในห้วงเวลา 21.00 -04.00 น.

-ร้านสะดวกซื้อตลาดโตรุ่งปิดเวลา 20.00 น.- 04.00 น.

-ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตร้านอาหารและเครื่องดื่มธนาคารและสถาบันการเงินร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ร้านอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสาร รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีน เปิดได้ถึงเวลา 20.00 น.

-ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มห้ามบริโภคอาหาร หรือสุรา หรือเครื่องดื่มภายในร้าน โดยเปิดได้ถึง 20.00 น.

-ปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดโรค ได้แก่ นวดเพื่อสุขภาพ สปา สถานเสริมความงาม

-สวนสาธารณะ สามารถเปิดให้บริการเพื่อออกกำลังกายได้ถึงเวลา 20.00 น.

-ห้ามการรวมกลุ่มทำกิจกรรมทางสังคม ที่ ไม่ใช่การปฎิบัติหน้าที่ การประกอบอาชีพ กิจกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมทางประเพณี รวมตัวของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป


ทั้งนี้ข้อปฏิบัติใน 10 จังหวัด “สีแดงเข้ม ให้ห้ามการเดินทางที่ไม่จำเป็น โดยห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น.-04.00 น. เว้นเฉพาะกรณีจำเป็นและหรือได้รับอนุญาต เช่น กรณีเจ็บป่วย ต้องไปโรงพยาบาล หรือเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โดย มาตรการทั้งหมดจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยให้หน่วยงานด้านความมั่นคงจะตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และชุดลาดตระเวน เพื่อกำกับการดูแลให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด โดยให้พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปหากพบกรณีผู้ฝ่าฝืน ให้บังคับใช้บทลงโทษตาม พ.ร.ก. สถานการณ์ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ


นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค. เน้นย้ำ ให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รับผิดชอบ กำหนดมาตรการคัดกรอง และมาตรการติดตามสำหรับบุคคลที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่ให้มีความเข้มงวด โดยเฉพาะ บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด โดยให้พร้อมดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 เวลา 06:00 น. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. โดยรายละเอียดจะออกในราชกิจจานุเบกษา ให้ประชาชนได้ศึกษารายละเอียดโดยเร็วที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News