ผู้ว่าฯ สั่งห้ามปชช.กลับเข้าพื้นที่ หวั่นพิษจากสารเคมี - จนท.ยังฉีดโฟมคุมอุณหภูมิ ป้องกันติดไฟซ้ำ

สังคม

ผู้ว่าฯ สั่งห้ามปชช.กลับเข้าพื้นที่ หวั่นพิษจากสารเคมี - จนท.ยังฉีดโฟมคุมอุณหภูมิ ป้องกันติดไฟซ้ำ

โดย pattraporn_a

6 ก.ค. 2564

101 views

(6 ก.ค.) ตลอดทั้งวัน ที่โรงงานหมิงตี้ เจ้าหน้าที่ยังคงฉีดหล่อเลี้ยงสารเคมีโฟม ทั้งภาคพื้นดิน และทางอากาศ เพื่อคุมอุณหภูมิไม่ให้ไฟปะทุกลับขึ้นมาอีก แม้จะปิดวาล์วได้แล้วก็ตาม แต่ความร้อนที่สะสมอาจทำให้ไฟสามารถกลับมาปะทุได้


ทางกู้ภัย บอกว่า วันนี้นำเครื่องมาสแกนอุณหภูมิในพื้นที่ และพบว่าด้านหลังโรงงานยังมีอีก 1 จุดที่มีความร้อนสูง จึงต้องฉีดโฟมควบคุมไว้ เพราะสารดังกล่าวหากมีความอุณหภูมิเกิน 36 องศา ก็สามารถติดไฟได้


ขณะที่มีหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ ทั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ รวมทั้ง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม


โดย รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุ ผู้ประกอบการจะต้องส่งสารเคมีไปทำลายทั้งหมด จากการตรวจสอบพบว่ายังมีสารเคมีตกค้างอีกประมาณ 4-5 ถัง แต่ไม่รู้ว่าจะเหลือในปริมาณเท่าไหร่


ส่วนทางจังหวัด บอกว่า ทางกรมควบคุมมลพิษ ได้เข้ามาตรวจสอบอันตรายจากสารพิษตกค้าง โดยต้องให้มั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงจะให้ประชาชนกลับเข้าที่พัก รวมถึงการเปิดการจราจรโดยรอบ ส่วนการสารเคมีที่อยู่ในแทงก์ที่ไปปิดวาล์ว ต้องนำออกมา โดยจะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของ


ทั้งนี้ ในวันนี้มีคนงานที่อาศัยอยู่ที่หอพักติดกับโรงงานบางคน ทยอยเข้ามาเก็บข้าวของเท่าที่พอจะหลงเหลือ ใส่ท้ายรถกระบะเพื่อกลับไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งในหอพักนี้มีคนงานอาศัยอยู่ 50 คน สภาพภายในเสียหายหนักจากแรงระเบิด คนงานหลายคนเล่าว่า ตอนเกิดเหตุต้องหนีตายเอาชีวิตออกมา เพราะทันทีที่ระเบิด ตื่นมาก็เห็นแสงเพลิง บางคนก็บาดเจ็บ


โดย นายอุรักษ์ ที่บาดเจ็บ เอ็นที่เท้าขาด 3 เส้น เล่าว่า ตกใจมาก จึงวิ่งหนีออกมาเท้าเปล่า ขับรถออกไป ยอมรับว่ารู้สึกใจหายที่โรงงานที่ทำงานมานาน 20 กว่าปี พังเสียหาย และกังวลใจกับอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป


อย่างไรก็ดี ทางหัวหน้าคนงาน ยืนยันว่าภาคใต้พื้นนั้น ไม่มีถังหรือบ่อสารเคมี ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ส่วนมาตรการต่างๆ ยังต้องรอการประเมินจากทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัด



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/nawcEwDqoUA

คุณอาจสนใจ

Related News