นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. ย้ำว่าสถานการณ์แพร่ระบาดขณะนี้ โดยเฉพาะการเดินหน้านำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตามแผน “ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ” ว่า ภาพรวมยังเป็นการติดเชื้อตัวเลขหลักเดียว จึงขอความร่วมมือของคนภูเก็ต และยืนยันว่านโยบายที่ประกาศไว้ยังเดินหน้าต่อไป แต่ทั้งนี้ “มีเปิดก็มีเปิดได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์” ซึ่งศบค.ได้จัดทำแผนรับมือที่เป็นเงื่อนไข หากจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบาย สำหรับจังหวัดภูเก็ต เช่น

1. กรณีพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 90 คนต่อสัปดาห์

2. การแพร่กระจายโรคไป 3 อำเภอ และมากกว่า 6 ตำบล

3. มีการระบาดเกิน 3 คลัสเตอร์ หรือหาสาเหตุความเชื่อมโยงไม่ได้

4. มีผู้ติดเชื้อครองเตียง ตั้งแต่ร้อยละ 80 ของศักยภาพจังหวัด

5. มีการระบาดของเชื้อกลายพันธุ์แบบวงกว้าง โดยมาตรการปรับเปลี่ยนจะมี 4 ระดับ คือ ปรับลดกิจกรรม / มาตรการปิดพื้นที่ / มาตรการโฮเทลควอรันทีน (hotel quarantine) และ สุดท้ายทบทวนยุติภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

ส่วนความชัดเจนเรื่องการเว้นระยะห่างการรับวัคซีนแอสตราเซเนการะหว่างเข็ม 1 กับ เข็ม 2 ว่าเป็น 12 หรือ 16 สัปดาห์นั้น โฆษกศบค. ชี้แจงว่า “มาตรฐานขณะนี้ยังอยู่ที่ 12 สัปดาห์ ส่วนกรณีที่มีข่าว 16 สัปดาห์นั้น ก็มีข้อมูลทางวิชาการในประเทศที่ใช้ฉีดในปริมาณมากแล้ว ถึงแม้จะมีระยะห่าง 16 สัปดาห์ ตัวภูมิคุ้มกันก็ยังครอบคลุมไปถึง ดังนั้นขอย้ำว่า “สำหรับไทย ยังใช้ตัวเลข 12 สัปดาห์ ส่วนตัวเลข 16 สัปดาห์เป็นตัวเลขที่ใช้หากจำเป็นต้องขยับ ทั้งเหตุผลปัญหาส่วนตัวของผู้ฉีดที่ป่วย และการบริหารจัดการวัคซีน ซึ่งเป็นดุลพินิจของแพทย์ ขอให้สบายใจกันได้มีความปลอดภัย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/5BTyBgwebjg