คดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หลังมีผลสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงชุดศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ มาเป็นเวลา9เดือนแล้ว โดยล่าสุดมีความคืบหน้าในการตรวจสอบของคณะกรรมการปปช. พบมีมูลความผิดของเจ้าหน้าที่ที่ให้การช่วยเหลือนายวรยุทธอย่างน้อย 10 คน

การรวบรวมพยานหลักฐานใหม่ เพื่อสั่งฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยาหรือบอส ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนคดีส่งฟ้องในข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งคดีจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2570 และข้อหา เสพยาเสพติดประเภท2หรือโคเคอีนจะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน 2565

โดยสำนวนคดีได้ส่งถึงอัยการ และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่เนื่องจากอัยการยังไม่สามารถส่งฟ้องได้ เพราะตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต้องนำตัวนายวรยุทธ กลับมาส่งให้อัยการเพื่อส่งฟ้องคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับใหม่ พร้อมกับคำสั่งฟ้องของอัยการ ส่งให้ตำรวจกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการให้ตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล ออกหมายแดงแต่ยังไม่สามารถออกหมายได้เนื่องจากไม่ทราบประเทศที่นายวรยุทธหลบหนีไป และประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่

ด้านการตรวจสอบผู้ให้ความช่วยเหลือทางคดี ของคณะกรรมการชุดศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ ซึ่งได้สรุปสำนวนคดีส่งนายกรัฐมนตรีไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือป.ป.ท.ได้ส่งเรื่องถึงคณะกรรมการป.ป.ช.

นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.เปิดเผยว่าการสอบของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองได้สรุปว่า คดีมีมูลความผิด มีเจ้าหน้าที่ทั้งอัยการและตำรวจเกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 10 คน อยู่ระหว่างเสนอให้ กรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ ตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหานำหลักฐานมาชี้แจง มีกรอบระยะเวลาการไต่สวนภายใน 2 ปี

ขณะที่ศาสตราจารย์วิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ ระบุว่า คดีนี้ได้สอบสวนทุกมิติอย่างละเอียด ระบุผู้เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลืออย่างชัดเจน ซึ่งมีทั้งอัยการ ตำรวจ นักวิชาการ และทนายความ

โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดตำรวจ 7 นาย เมื่อเดือน ต.ค. 2562 ในกรณีทำสำนวนสอบสวนช่วยเหลือนายวรยุทธ โดยลงโทษภาคทัณฑ์ตำรวจ 4 นาย ลงโทษกักยามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี 3 วัน ส่วนตำรวจอีก 2 นายเกษียณอายุราชการไปก่อนหน้าหลายปี ก่อน ปปช.จะชี้มูลความผิดส่งมายังต้นสังกัด