นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร บอกว่า ในวันพุธนี้ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความลุงพล จะเดินทางมายื่นหนังสือให้กรรมาธิการ ในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำคดีลุงพล ที่ไม่ถูกต้องในทุกๆเรื่อง ซึ่งหลังจากนั้น ในวันที่ 16 มิถุนายน อาจจะเชิญ ผบ.ตร. ลุงพล และแม่น้องชมพู่มาให้ปากคำกับคณะกรรมาธิการฯด้วย หลังจากนั้นจะลงพื้นที่ไปบ้านกกกอก เพื่อให้กำลังใจแม่น้องชมพู่ และหาทนายให้เพื่อต่อสู้คดี

ขณะที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงกรณีที่ทนายตั้มจะร้องต่อกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของสภาผู้แทนราษฎร ว่า สามารถยื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร หรือยื่นต่อกรรมาธิการ ซึ่งการดำเนินการของสภาหรือกรรมาธิการก็จะอยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับ ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้

ขณะที่ พลตำรวจโท อำนวย นิ่มมะโน โพสต์เฟซบุ๊ก ไม่เห็นด้วยหลังจากที่ทนายตั้ม เตรียมเข้าพบ ส.ส.สิระ เพื่อขอความเป็นธรรม หลังตำรวจออกหมายจับลุงพลในคดีน้องชมพู่ว่ากระบวนการยุติธรรม ต้องปราศจากการแทรกแซง หน้าที่ของตำรวจ คือ สืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อยุติว่า น้องชมพู่ เสียชีวิตเอง หรือมีคนทำให้เสียชีวิต ใครคือผู้กระทำความผิด และออกหมายจับมาดำเนินคดี

หากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพนักงานสอบสวน นำพยานหลักฐานไปชี้แจงก็จะกลายเป็นการเปิดข้อมูลสำนวนการสอบสวนให้อีกฝ่ายรู้ แล้วความเป็นธรรมจะอยู่ตรงไหน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะมีความผิดฐานนำความลับในสำนวนไปเปิดเผยหรือไม่ และหากตำรวจนำหลักฐานไปชี้แจงต่อหน้าทนายของลุงพล ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้ทนายความในคดีอื่นๆ ใช้ช่องทางนี้ล้วงความลับในสำนวน

พลตำรวจโทยรรยง เวชโอสถ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนในคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่ เปิดเผยว่า ไม่รู้สึกหนักใจหากต้องถูกเรียกไปชี้แจงในคดีน้องชมพู่ แต่ต้องรอให้มีการส่งเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาก่อน จึงจะพิจารณาว่าจะส่งตัวแทนไปชี้แจง หรือทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร ทั้งนี้การชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ สามารถเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลในสำนวน หรือพยานหลักฐานบางส่วนที่พิจารณาแล้วไม่กระทบกับสำนวนในคดีนี้ได้ จึงมั่นใจว่าการไปชี้แจงในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี