เตรียมทำสัญญาจองวัคซีน 'ไฟเซอร์-จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน' - ศบศ.เคาะ 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' รับ นทท.ต่างชาติ 1 ก.ค.นี้

สังคม

เตรียมทำสัญญาจองวัคซีน 'ไฟเซอร์-จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน' - ศบศ.เคาะ 'ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์' รับ นทท.ต่างชาติ 1 ก.ค.นี้

โดย weerawit_c

5 มิ.ย. 2564

1.9K views

นายอนุทิน ชาญวีระกูลรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อม นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารกระทรวง เยี่ยมชมการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัคซีนล็อตแรกที่ผลิตในประเทศไทย จำนวน 1.8 ล้านโดส ณ จุดฉีดวัคซีนกระทรวงสาธารณสุข 24 ราย ซึ่งเป็นประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนมาล่วงหน้า


โดยมีนายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำ ประเทศไทย รับการฉีดจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขด้วย ซึ่งนายแพทย์แดเนียล กล่าวว่าเชื่อมั่นกับมาตรฐานและคุณภาพของวัคซีนแอสตราเซเนกาซึ่งผลิตในประเทศ


วัคซีนของแอสตราเซเนกาล็อตแรกที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนจำกัด ระบุสถานที่การผลิตใน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยวัคซีนล็อตนี้ได้ถูกนำมาฉีดให้กับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่จุดบริการวัคซีนภายในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันความมั่นใจหลังได้รับวัคซีนล็อตที่ผลิตในประเทศไทย ตามกำหนดก่อนวันดีเดย์ฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 7 มิถุนายน ซึ่งได้มีพิธีส่งมอบจากบริษัทแอสตราเซเนกาประเทศไทยจำกัดอย่างเป็นทางการในวันนี้จำนวน 1.8 ล้านโดส


ด้านนายแพทย์ เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันจะทยอยจัดส่งวัคซีนให้กับทุกจังหวัดในทุกสัปดาห์ เฉพาะในเดือนนี้จะมีวัคซีนจากแอสตราเซเนกาและซิโนแวคเข้ามาเพิ่มอีกประมาณ 6 ล้านโดส โดยจะเริ่มกระจายจาก 1.8 ล้านโดสแรกนี้ทันที


นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่า การจัดหาเพิ่มเติมอยู่ในขั้นตอนลงนามสัญญาคำสั่งจองวัคซีนกับบริษัทไฟเซอร์ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการลงนามในสัญญาจองวัคซีน และวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อยู่ในขั้นตอนการเตรียมทำสัญญาจองวัคซีน โดยวัคซีน 2 ตัวนี้คาดว่าจะได้รวม 25 ล้านโดส และจะมีแผนจัดหาซื้อซิโนแวคอีก 8 ล้านโดส ก็จะได้ครบ 100 ล้านโดส


ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้เปิดพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีน และมีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางแล้วมีผลเป็นลบ เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยเริ่มต้นวันที่ 1 ก.ค.นี้


โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาสามารถเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว และเมื่อท่องเที่ยวในภูเก็ตครบ 14 วันแล้วสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยแปลงเงื่อนไขจากเดิมที่ให้ท่องเที่ยวในภูเก็ต 7 วัน และไปยังจังหวัดอื่นๆได้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขกังวลการแพร่ระบาดของโควิดในหลายประเทศทั่วโลก


ส่วนข้อเสนอของจังหวัดอื่นๆ 10 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะพีพี จ.กระบี่ และจ.พังงา ทางศบศ.ยังไม่อนุมัติให้เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยขอให้ประเมินสถานการณ์ และรูปแบบจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ก่อน 1 - 2 เดือน ค่อยพิจารณาอีกครั้ง


อย่างไรก็ตามในส่วนของพื้นที่ที่มีการเสนอขอเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.2564 ได้แก่ พื้นที่พัทยา พื้นที่หัวหิน พื้นที่ จ.เพชรบุรี พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ พื้นที่ กทม.ที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอโดยให้พิจารณาสถานการณ์เป็นระยะๆ สำหรับข้อกำหนดเรื่องเอกสารและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามายังภูเก็ตนั้นให้เป็นที่ประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ซึ่งเมื่อเห็นชอบจะผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนต่อไป

คุณอาจสนใจ