โลกออนไลน์จวกยับ คุณป้าคนหนึ่งไปวิ่งออกกำลังกายริมหาดพัทยา แต่ไม่สวมแมสก์ ถูกเทศกิจเตือนกลับเถียงเป็นไฟ บอกว่า เป็นที่สาธารณะ ออกกำลังกาย คนโล่ง สถานที่เปิด อยากสูดอากาศบริสุทธิ์

เพจโหลกแดง Back To School โพสต์คลิปนี้ ขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปเตือนหญิงคนหนึ่งที่มาวิ่งออกกำลังกายริมหาดพัทยา แต่ไม่ยอมสวมหน้ากาก เมื่อเจ้าหน้าที่เทศกิจเรียกถาม ทำไมไม่สวมหน้ากากครับ เธอเถียงกลับแบบรัว ๆ ว่า "เห็นว่าเป็นที่สาธารณะ ออกกำลังกาย ที่กว้าง ที่โล่ง ไม่ใช่ห้องแอร์ ไม่ใช่ที่อับ ไม่ใช่ที่ชุมชนคนเยอะ" เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่ถ่ายคลิปอยู่ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเจ้าหน้าที่บ้าง

เจ้าหน้าที่จึงบอกว่า เป็นคนไทยใช่ไหมครับ ไม่ปฏิบัติตามผิดกฎหมายนะครับ หากไม่สวมแมสก์ในที่สาธารณะ พร้อมถามว่า คุณชื่ออะไรครับ หญิงคนนี้ตอบว่า "ไปที่ร้านกล้วยทอดคุณไก่" เจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า ขอความร่วมมือนะครับ เพราะตอนนี้โรคโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ เธอตอบว่า พรุ่งนี้จะให้ความร่วมมือโดยไม่มา! พร้อมอ้างว่า บางครั้งมันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล เพราะเห็นว่าเป็นที่กว้าง อากาศโล่ง ไม่ใช่ที่ชุมชน ไม่ใช่ที่ติดแอร์ ไม่ใช่ที่อับ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ยื่นแมสก์ให้ เธอไม่รับ พร้อมบอกว่า ขอบคุณมาก และหากจะเอาผิดให้ออกหมายไปที่บ้านแล้วกัน จากนั้นก็เดินจากไป

ต่อมาคุณป้าคนนี้ได้โพสต์เฟซบุ๊ก บอกว่า วันนี้ขอระบายหน่อย ไปเดินออกกำลังกายที่หาดพัทยา ตอนออกจากบ้านใส่แมสก์ แต่พอเริ่มถึงที่หมาย อากาศดี ลมพัดเย็นสบาย ได้สูดโอโซน คนไม่มาก พื้นที่โล่งก็เริ่มกิจกรรมถอดแมสก์ ก็เกิดเรื่อง เจ้าหน้าที่ที่พิทักษ์พื้นที่ได้เข้ามาต่อว่า ไม่ใส่แมสก์ ผิดกฎหมาย พร้อมแสดงท่าทีที่น่าเกรงขาม ถ่ายรูป เราจึงให้เหตุผลและไม่ยอมใส่ (ในกระเป๋ากางเกงมีค่ะ) อ้อ...เจ้าหน้าที่มาหลายคนนะ แต่คนที่รับบทพระเอกมีหนึ่งเดียว มีน้องเจ้าหน้าที่บางคนแสดงความเป็นมิตรด้วยการเอาแมสก์มาให้ สายตาอบอุ่น (เหมือนอำพล555) แล้วทำท่าพูดเบา ๆ "ไม่ปิดก็เอาไว้ใต้คางก็ได้" 555 ขอบคุณนะจ๊ะที่เป็นห่วง

มีเสียงดรุณีนางหนึ่งลอยข้ามฝั่งมา "ใส่แมสก์ด้วยๆ" น่าจะเป็นผู้รักชาติแน่ พยายามมองหาแต่ไม่เห็น นางอาจจะพูดเอาใจพระเอกแน่เลย 555 ปกติเราเป็นคนไม่ดื้อนะ ค่อนข้างฟังเหตุผลด้วย แต่ครั้งนี้เราคงดื้อและใช้เหตุผลของเราเอง ขอโทษเจ้าหน้าที่ที่ทำให้หนักใจ เราคงแก้ปัญหาครั้งนี้ด้วยการไม่ไปเดินสูดโอโซนอีก ถ้าจะต้องถกเถียงกัน ความย้อนแย้งจากคำสั่งผู้มีอำนาจดูจะมีบ่อยครั้ง สามีภรรยาที่นอนเตียงเดียวกัน มีมิตรสัมพันธ์กัน นั่งรถมาจากบ้านด้วยกัน แต่นั่งกินข้าวที่ร้านแยกกัน โอ้ย...อีดอกไม้...(ด่า) ตรรกะเพี้ยนมากไปมั้ย 55555  ปล.มาพิมพ์ตอนมีสติ ไม่ใช้อารมณ์ ไม่โมโห ไม่งั้นนะ อีจำปีเยอะแน่

ปรากฏว่า มีชาวเน็ตแห่มารุมตำหนิคุณป้าเป็นจำนวนมาก พร้อมถามว่า รู้จักคำว่าที่สาธารณะหรือไม่ กฎหมายก็คือกฎหมาย ต้องทำตามเพื่อส่วนรวม ผิดแล้วยังมาแถอีก

ต่อมา คุณป้าคนเดิมโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง "#ทัวร์ลง ขอบคุณทุกคอมเม้น เป็นการแสดงความคิดที่เป็นไปในทางเดียวกัน เราดีใจที่คนไทยรักกัน คิดเห็นเหมือนกัน เราจะลงโทษตัวเองด้วยการไม่ไปสร้างปัญหาให้กับสังคมอีก ขอบคุณทุก ๆ คน และทุก ๆ คอมเม้นอีกครั้ง

แน่นอน ชาวเน็ตก็ยังตามมาต่อว่าอีก บางคนบอกว่า แค่หลักร้อยยังไม่ใช่ทัวร์ลงนะป้า ขณะที่บางคนบอกว่า ดีแล้วที่ผิดแล้วยอมรับ ไม่ควรแถ ซึ่งเธอก็เข้ามาตอบกลับทุกข้อความ

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชายหาดพัทยา พบว่า ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติมาออกกำลังกายทั้งเดินและวิ่ง ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย ชาวบ้านที่มาออกกำลังกาย ต่างบอกว่า ตอนนี้ก็ควรสวมหน้ากากอนามัย เพราะจะป้องกันตัวเองและคนอื่น ในช่วงที่โควิดยังระบาดไม่หยุด จากคลิปดังกล่าวก็เห็นใจเจ้าหน้าที่

ด้าน พันตำรวจโท สมพล นาคขำพันธ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เผยว่า เห็นข่าวและคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว หลังจากนี้จะทำการสืบสวนถึงตัวผู้ก่อเหตุในคลิปวิดีโอ ก่อนเชิญตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี มีอัตราการเปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 6,000 ถึง 20,000 บาท

ผู้สื่อข่าวไปที่ร้านคุณไก่ ไม่พบคุณไก่ พบเพียงลูกชาย ซึ่งไม่อนุญาตให้บันทึกภาพใด ๆ พร้อมบอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น เห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะแม่ไปตอนเช้าซึ่งคนน้อยอยู่แล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ทำไม่ถูกที่ถ่ายคลิปแม่แล้วนำไปโพสต์โซเชียล ถือว่าทำเกินไป เรื่องที่เกิดขึ้นไม่อยากต่อความยาว ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรอีก อยากให้จบลงเท่านี้