ศบค.เคาะแผนผ่อนคลายมาตรการแล้ว กำหนดให้ กทม.และปริมณฑลรวม 4 จังหวัดยังเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม และเตรียมผ่อนคลายให้ทานอาหารที่ร้านได้ แต่ก็มีเงื่อนไขอย่างเข้มข้น

จากมติที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กเห็นชอบแผนการผ่อนคลายมาตรการตามที่ทางกระทรวงสาธารณสุขเสนอมา โดยให้ปรับโซนสีพื้นที่การแพร่ระบาดทั่วประเทศใหม่ 

คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม จากเดิม 6 จังหวัด เหลือเพียง 4 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และ สมุทรปราการ ส่วนอีกสองจังหวัดที่ปรับระดับลงไปคือ ชลบุรี และ เชียงใหม่

พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง เดิมมี 45 จังหวัด ลดเหลือ 17 จังหวัด และ พื้นที่ควบคุม หรือพื้นที่สีส้ม เดิมมี 26 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 56 จังหวัด

สิ่งที่จะมาพร้อมกับการปรับโซนพื้นที่ใหม่ คือ การผ่อนคลายมาตรการ ที่สำคัญและจับตากันมากที่สุดคือการให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้ในส่วนของพื้นที่โซนสีแดงเข้ม จากเดิมจะไม่อนุญาตให้ทานที่ร้านเลย

ที่ผ่อนคลายรอบนี้ คือ นั่งทานที่ร้านได้ แต่ก็มีเงื่อนไขเข้มงวดมาก คือ ให้นั่งได้ไม่เกิน 25 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดิมโต๊ะนึงนั่งได้ 4 คน ก็ให้นั่งได้แค่คนเดียว ให้นั่งทานได้แค่ไม่เกิน 3 ทุ่ม และ งดจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน

สำหรับพื้นที่สีแดงให้นั่งทานได้ถึง 5 ทุ่ม ส่วนพื้นที่สีส้มให้นั่งทานได้ตามปกติ แต่ทั้งหมดมีเงื่อนไขงดจำหน่ายและดื่มสุราในร้านเหมือนกัน

ซึ่งโฆษก ศบค.ย้ำว่า ได้มีการกำชับแต่ละพื้นที่จะต้องไปกำกับดูแลอย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการทำผิดเงื่อนไข ครั้งแรกให้ตักเตือน แต่หากยังพบอีกให้ลงโทษ เช่นอาจจะสั่งปิดเลย และต้องมีการประเมินในระยะยาวด้วย หากเปิดแล้วทำให้มีการแพร่ระบาดขึ้นก็อาจจะสั่งห้ามทานที่ร้านอีก

อย่างไรก็ตามมาตรการผ่อนคลายนี้จะต้องนำเสนอนายกรัฐมนตรีก่อน หากนายกฯเห็นชอบตามนี้ก็จะสามารถประกาศใช้ได้ ซึ่งอาจจะเริ่มใช้หลังเที่ยงคืนวันนี้ หรือ หลังเที่ยงคืนวันพรุ่งนี้ (16 พ.ค.)

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ให้ความเห็นถึง แนวทางผ่อนปรนมาตรการดังกล่าว ว่าเป็นเรื่องดีสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและร้านอาหารรายย่อย น่าจะทำให้ยอดขายร้านอาหารเพิ่มขึ้นได้ 25% แม้จะไม่มากแต่ก็ดีกว่าปิดไม่ให้นั่งเลย และหากรวมกับการปรับตัวไปขายผ่านออนไลน์เดลิเวอรี่แล้ว ประเมินว่า ยอดขายร้านอาหารน่าจะกลับมาได้ราว 45% ช่วยประคองธุรกิจต่อไปได้

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/qVnOxW1BYg8