พ่อบุญธรรมของนายเด่นภูมิ ผู้ต้องหาปลอมเป็นโมเดลลิ่งหลอกบังคับขืนใจพริตตี้ ได้เปิดใจเกี่ยวกับชีวิตที่พลิกผันของผู้ต้องหารายนี้ ที่เติบโตในครอบครัวที่พร้อมให้ความอบอุ่นและส่งเสียเล่าเรียน แต่กลับก่อคดีต่อเนื่องเกือบ 20 ปี เป็นเหตุให้แม่บุญธรรมเสียใจ ล้มป่วยจนเป็นอัลไซเมอร์ ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาเพียงวันเดียวก็มาก่อหลากลวงพริตตี้อีกหลายคดี ตำรวจเชื่อมีพริตตี้กว่า 30 คน ตกเป็นเหยื่อในคดีนี้

โดยทันทีที่ทราบว่าตำรวจจับ นายเด่นภูมิ หรือ โจอี้ อายุ 39 ปีได้ พ่อบุญธรรมรู้สึกโล่งใจ เพราะนอนไม่หลับเนื่องจากหวาดผวา เกรงนายเด่นภูมิจะบุกเข้ามาหาข่มขู่ขอเงิน เมื่อเงินขาดมือ และขอให้ผู้เสียหายออกมาแจ้งความให้มากๆ เพื่ออยากให้นายเด่นภูมิได้รับโทษให้นานที่สุด เพราะที่ผ่านมาแม้จะถูกจับบ่อย แต่นายเด่นภูมิมีเทคนิคการพูดเอาตัวรอด จนไม่ต้องโทษก็มี คดีหลังสุดต้องโทษ 1 เดือน พ้นโทษเมื่อวันที่ 6 เมษายน ต่อมาในวันที่ 7 เมษายน ก็ก่อคดีลวงเหยื่อพริตตี้ 3 รายทันที

พ่อบุญธรรม เปิดเผยว่า เป็นทุกข์อย่างหนักมาเกือบ 30 ปี หลังรับอุปการระนายเด่นภูมิจาก รพ.หลังคลอดได้ 3 เดือน เนื่องจากครอบครัวไม่มีบุตร จึงทุ่มเทความรักให้นายเด่นภูมิเต็มที่ ส่งเสียเล่าเรียน แต่นายเด่นภูมิหันไปเสพยา มารดาจึงส่งเรียน กศน.จนจบชั้น ม.6 หวังให้เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่นายเด่นภูมิยังสร้างปัญหาไม่จบสิ้น คบเพื่อนเสพยา ถูกจับคดียาเสพติด ชิงทรัพย์บ่อยครั้ง แถมยังมาก่อคดีบังคับขืนใจหญิงสาว และกลับมาบ้านก็บังคับขอเงินครั้งละเป็นแสน จนทนพฤติกรรมไม่ไหว ไปขอศาลยกเลิกเป็นบุตรบุญธรรม

ทั้งนี้ เมื่อบ่ายของวันนี้ หลังจากมีหมายจับคดีข่มขืนกระทำชำเรา 3 หมาย ตำรวจกองปราบได้เข้าจับกุม นายเด่นภูมิ ได้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านสายไหม หลังจากมีทั้งกลุ่มแท๊กซี่และพลเมืองดี ให้ข้อมูลว่านายเด่นภูมิเดินทางไปขอเงินจากบ้านอดีตภรรยา และไปหาเพื่อนกลุ่มเสพยาที่ห้องพัก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนท่ามกลางความเสี่ยง เพราะนายเด่นภูมิเดินทางไปหลายพื้นที่ไม่ทราบว่าติดเชื้อโควิดหรือไม่ การสอบสวนจึงต้องป้องกันเป็นพิเศษ

โดย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า นายเด่นภูมิยังให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีหลักฐานว่ากระทำกับเหยื่อ เป็นหญิงสาวพริตตี้มากกว่า 30 ราย ร่วมทั้งเมื่อปี 2561 ที่ปักธงชัย ก็ปลอมเป็นโมเดลลิ่ง อ้างชื่อผู้จัดการศิลปินชื่อดัง หลอกหญิงสาวมาบังคับขืนใจ เสพยา และถ่ายภาพเหยื่อ ซึ่งคดียังค้างอยู่

ซึ่งตรงกับที่ทางพ่อบุญธรรมก็ยืนยันว่า นายเด่นภูมิมักรู้สึกว่าตัวเองชนะ เมื่อได้บังคับขืนใจผู้อ่อนแอกว่า ส่วนนายเด่นภูมิ ยังอ้างหญิงสาวสมยอม และขอให้การให้ชั้นศาล

หลังจากนั้น ตำรวจควบคุมตัวนายเด่นภูมิไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 และตรวจสารเสพติด โดยขณะนี้มีหมายจับของ 3 สน. และกำลังจะออกหมายจับอีก 3 หมายในคดีเดียวกัน