กรณีบุคลากรทางการแพทย์เพชรบูรณ์ออกมาโพสต์โซเชียล ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เผยอึดอัดใจที่จะฉีด แต่ถูกหน่วยงานต้นสังกัดกดดันให้ฉีดวัคซีน ด้าน สสจ.เพชรบูรณ์ แจงไม่ได้บังคับ เผยมีบุคลากรไม่ประสงค์จะฉีดกว่า 1,000 คน

โดยพยาบาลวิชาชีพรายหนึ่งที่ จ.เพชรบูรณ์ ได้ทวิตเล่าเรื่องราว ว่า ทางโรงพยาบาลให้ฉีด ตอนแรกคิดว่าจะฉีดดีหรือไม่ฉีดดี กังวลใจ สุดท้ายถูกกดดันให้ฉีด เนื่องจากตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยง ปรากฎว่าพอฉีดวัคซีนไปแล้วมีความรู้สึกว่าคันปากยุบยิบ หลังจากนั้นผ่านไป 24 ชั่วโมง เริ่มมีอาการไม่พึงประสงค์ พอ 30 ชั่วโมงมีอาการปากชา ลิ้นชา ลิ้นแข็ง

หลังจากนั้นระหว่างที่กำลังดูแลคนไข้อยู่ ตัวเธอเองได้ล้มลงกับพื้น ก่อนเข้าสู่กระบวนการซีทีสแกน ซึ่งพบว่าเส้นเลือดสมองตีบ ทานแอสไพริน ผ่านไป 4 วัน ทำซีทีสแกนอีกรอบพบว่ารอยในสมองก็หายไป พร้อมกับบอกว่า หลังเกิดเหตุโรงพยาบาลปกปิดข้อมูล นอกจากนี้ยังมีบุคลากรทางการแพทย์อีก 7-8 ราย ที่มีผลข้างเคียงเช่นกัน บางรายต้องมานั่งหัดเขียนหนังสือใหม่ ส่วนตัวเธอเองหายเป็นปกติแล้ว

นายแพทย์ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุข จ.เพชรบูรณ์ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า จ.เพชรบูรณ์ ได้รับการจัดสรรวัคซีนให้มาทำการฉีดให้กับหัวหน้าหน่วยงาน และบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 10,600 โดส ส่วนบุคลากรทางการแพทย์มีอยู่ราว 6,000 กว่าคน มีผู้ประสงค์จะฉีด 5,600 คน ซึ่งที่ผ่านมามีการฉีดเข็มแรกไปบ้างแล้ว ส่วนผู้ที่ไม่ประสงค์จะฉีดมีอยู่ประมาณ 500-1,000 คน ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว และร่างกายไม่พร้อม ขอยืนยันว่า ไมมีการบังคับให้ฉีดวัคซีนหรือมีบทลงโทษแต่อย่างใด เพียงแต่แจ้งให้ทราบว่า ตามหลักผู้ที่จะต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชนควรจะต้องฉีดวัคซีนเท่านั้น

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/gMjpk08fFUo